เรื่องน่ารู้จาก GoUni - การศึกษา

สวัสดีผู้อ่านทุกคนนะคะ เนื่องจาก GoUni ถูกเชิญไปเยี่ยมชมโรงเรียน Adcote School for Girls โรงเรียนหญิงล้วนทางเหนือของอังกฤษ ที่เป็นโรงเรียนแบบอังกริ๊ดดดอังกฤษ ทีมเรารู้สึกประทับใจมาก เลยจะขอเก็บภาพมาฝากพร้อมรีวิวฉบับพิเศษแบบ Exclusive จากผู้บริหารเอง (พีชชี่ #สตีเฟ่นโอปป้า ไงจะใครล่ะ😅) มาขอบอกเล่าประสบการณ์ (พร้อมความเห็นส่วนตัว) จากที่ได้ไปสัมผัสมาด้วยตัวเองค่ะ หลังจากห่างหายไปจากการเขียน Blog เองไปนานมาก!! น้องๆหรือผู้ปกครองที่กำลังมองหาที่เรียนต่อหรือเอเจนซี่ในการเรียนต่อมัธยมที่อังกฤษ ไม่ต้องบินมาเองให้เสียเวลา GoUni พาไปบุกลุย ดูมาให้เห็นกับตาถึงที่แล้ว!!

หมายเหตุ: รูปใน Blog นี้เป็นของศูนย์ปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศ GoUni เท่านั้น ไม่อนุญาตให้นำไปใช้เพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร - Images in this blog are only reserved for GoUni and are not allowed for any other commercial use unless permission is granted

บทความกระทู้นี้ขออนุญาตเป็นแนวบอกเล่าเรื่องราวและประสบการณ์เกี่ยวกับโรงเรียน Adcote School หากใครอยากได้ข้อมูลเชิง Key Facts (ระบบการศึกษา ลักษณะคอร์ส วิชาที่ให้เลือกเรียน เกณฑ์การรับเข้า ฯลฯ) โดยละเอียด แนะนำให้ไถลงไปอ่านด้านล่างสุด หรือ คลิกเพื่อติดต่อทีมงานที่ปรึกษาของโกยูนิ โดยตรงเลยนะคะ

GoUni พร้อมให้บริการในการให้ข้อมูลและดำเนินการสมัครทั้งเรียนซัมเมอร์ปิดเทอม เรียนแลกเปลี่ยน หรือย้ายมาเรียนเลยกับ Adcote School เรามีออฟฟิสพร้อมดูแลทั้งที่ไทยและอังกฤษ ไปจนถึงการทำวีซ่าและจองตั๋วเครื่องบินให้กับน้องๆและผู้ปกครอง ไม่ว่าน้องๆจะเรียนอยู่ที่ไทยหรืออังกฤษ สามารถติดต่อทีมงานของเราที่ประจำอยู่ที่ทั้งสองประเทศได้ 0203735 7100 (UK) 029677003 (ไทย) หรือ info@gouni.co.th ค่ะ 🙏

เข้าเรื่องค่ะ!! ขอบอกเลยว่าถ้าอยากมาเรียนโรงเรียนฟิลอังกริ๊ดอังกฤษ ตึกอิฐล้อมด้วยทุ่งสีเขียว ต้องนอกเมืองเท่านั้นค่ะ จะสังเกตได้ว่าโรงเรียนประจำ (Boarding School) ลักษณะนี้ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในเมืองเล็กๆ หรือที่เรียกว่า "Middle of No Where" 😂 ซึ่งถ้าใครที่ชอบแสงสี ชอบความเมืองใหญ่ อาจเบื่อได้ (แต่ส่วนใหญ่ผู้ปกครองจะชอบ เพราะไม่ต้องกังวลว่าลูกจะฟู่ฟ่าจนไม่เป็นอันเรียน 55555)

แต่ใต้ความ Middle of no where นี้ก็มีอยู่หลายดีกรี โรงเรียน Adcote School นี้อยู่ที่เมือง Shrewsbury ขึ้นเหนือไปทาง North-East ในอังกฤษ ห่างจากเมือง Birmingham แค่ชั่วโมงเดียว (ซึ่งเผื่อใครยังไม่รู้ - เป็นเมืองใหญ่อันดับสองรองจากลอนดอนนะจ๊ะ) Shrewsbury เป็นเมืองที่เหมือนจะเล็กแต่ไม่เล็กเลย มีห้างร้านค้าร้านอาหารแน่นพรึ่บ เมืองมีความน่ารัก คงความคลาสสิคแบบอังกฤษๆไว้ ดูเป็นที่ๆถ้าพ่อแม่เรามาต้องชอบแน่ๆ ร้านค้าชอปปิ้ง H&M Topshop ก็มีครบ เรียกว่าถ้าพ่อแม่มาเยี่ยมก็แฮปปี้ คุณลูกอยู่ก็แฮปปี้

Adcote School ไม่ได้อยู่ในตัวเมืองนาจา ต้องนั่งแทกซี่ออกมาจากเมืองประมาณ 10-15 นาที (ซึ่งถ้าเทียบกับการนั่งแท็กซี่ฝ่ารถติดในกรุงเทพฯแล้ว ถือว่า Nothing มากๆ 5555) โรงเรียนล้อมไปด้วยสีเขียว เห็นครั้งแรก สิ่งที่ผุดมาในหัวคือ "โดดเรียนไม่ได้แน่นอน" 555555 แต่ต้องยอมใจกับบรรยากาศและ First Impression แบบแกรนด์โอเพ่นนิ่ง ขนาดเรามากันในหน้าหนาว ยังถือว่าแห้งแล้งไม่มีดอกไม้ผลิ ยังเขียวขจีดีต่อใจได้ขนาดนี้

เข้ามาข้างในตึกก็ไม่ผิดหวังในความขลังสไตล์บริทิช ตึกเรียนนี้ถูกลิสต์ว่าเป็น Grade I: Buildings of Exceptional Interest ของประเทศอังกฤษ บอกเลยว่าสาวกแฮร์รี่ พอตเตอร์แบบอิชั้น หวีดอยู่ในใจแรงมาก 😂

ได้มีโอกาสเข้าไปดูคลาสเรียนของน้องๆ สิ่งที่สังเกตได้เลยคือห้องเรียนขนาดเล็กมาก มีนักเรียนไม่เกิน 15-20 คน ทุกคนได้ interact และครูก็พูดคุยถามไถ่ได้ทั่วถึงมาก ครูเองก็เข้าหาเด็กแบบ Practive Approach คือครูจะเข้าหาก่อน ตั้งคำถาม พยายามได้คำตอบจากนักเรียน ไม่ได้แค่มาสอนๆ แล้วรอให้นักเรียนตั้งคำถามใส่เมื่อไม่เข้าใจ ซึ่งเราว่ามันดีมาก โดยเฉพาะกับเด็กเอเชีย ซึ่งโดยธรรมชาติเราไม่ค่อย Active ในการตั้งคำถามหรือ Discuss กับครูเท่าไหร่ (ไม่เหมือนเด็กฝรั่ง) ซึ่งที่ Adcote จะเป็นแบบนี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคลาสเรียนแบบนั่งโต๊ะเขียนกระดาน หรือในแลบฯที่ได้ลงไม้ลงมือทำการทดลองวิทยาศาสตร์

คลาสแลบฯ ทั้ง Physics และ Chemistry เป็นอะไรที่ตื่นตามาก เด็กๆได้เริ่มจับลงมือทดลองกันตั้งแต่ตัวเล็กๆ (เล็กม๊ากกกจริงๆ มากจนเราคิดว่า เหยย.. น้องจบประถมรึยังเนี๊ยยย 55555 😂) โดยตลอดระยะเวลาที่เราดูอยู่นั้น จะเห็นครูคอยตะโกนอยู่ตลอดว่าให้ใส่แว่นด้วย ให้ระวังด้วย และมีการเดินเวียนทุกโต๊ะ ตั้งคำถามให้นักเรียนตีความสิ่งที่เรียนรู้จากการทดลองนั้นๆออกมา การที่ได้จับได้ทำจริงๆ มันทำให้เด็กไม่ได้เรียนรู้แค่จากการท่องจำไปสอบ (สอบเสร็จก็ลืม) คือเราดูไม่ออกจริงๆ ว่ามีคนไหนที่รู้สึกเบื่อในคลาส เพราะทุกคนดูตั้งหน้าตั้งตาฟังและตั้งหน้าตั้งตาทำการทดลอง

อันนี้เป็นข้อดีของระบบการศึกษาที่อังกฤษ ที่ให้นักเรียนเลือก Mix วิชาเรียนเองได้ โดยเด็กๆจะเรียนแค่ 4-5 วิชาต่อปี (ไม่ได้เรียน 13 ตัวทั้งหลักทั้งเสริมเหมือนที่ไทย จับฉ่ายสุดฤทธิ์) การที่ได้เลือกวิชาเองมาเจอกับการสอนที่มัน active แบบนี้ มันทำให้เด็กๆ อยากเรียนรู้ มากกว่ามานั่งให้จบๆคาบไป ทำให้ครูก็ไม่กร่อย นักเรียนก็ไม่เนือย

เราเหลือบไปเห็นตารางธาตุแปะอยู่ข้างฝา เราหันไปบอกน้องว่า รู้มั้ยที่ไทยอ่ะ มีโรงเรียนที่ต้องสอบท่องจำตารางธาตุกันด้วยนะ น้องเหลือกตาตกใจ แล้วก็ถามกลับว่า "ท่องจำไปเพื่ออะไร?"

หลังจากนั้นเราไปดูคลาส ICT ซึ่งคาบนี้ น้องๆต้องเรียนการเขียนโค้ด สำหรับทำให้หุ่นรถยนต์วิ่งและหยุด ประทับใจที่เด็กสมัยนี้เริ่มเรียนการ Coding การเขียนโปรแกรมกันตั้งแต่ตัวเล็กจิ้ดเดียวนี่คือการเตรียมตัวเตรียมความรู้เข้าสู่ยุค Digital ที่แท้จริง (รู้สึกแก่ไปเลย ที่ทันเรียนสมัยก่อนตอนยังใช้ Flobby Disk 55555)

ประทับใจคุณครู ที่ใส่ไทมายืนควงสว่านกลางห้อง (ฮา) ที่ประทับใจยิ่งกว่าคือ น้องๆที่เป็นเด็กผู้หญิง มัดแกละถักเปีย (สูงยังไม่ถึงเอวพี่เลยลูกกก 5555) ก็ดูเอนจอยกับการเขียนโค้ด เกลาไม้ ทดลองแผงวงจร ฯลฯ มันว้าวมากๆ!!

น้องบอกกับเราว่า หนึ่งในข้อดีของการเรียนหญิงล้วนที่ Adcote School คือ น้องรู้สึกว่าได้รับการสนับสนุนในการเรียนสายวิทย์หนักๆพวกนี้อย่างจริงจังจริงๆ น้องไม่รู้สึกกดดันเหมือนคนอื่นที่เรียนสห เพราะต่อให้เราจะ push เรื่องของความเท่าเทียมทางเพศยังไง ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสายงานด้านวิทย์ เทคโน วิศวะฯ คณิตฯ (STEM) มักเป็นสายงานที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายทั้งนั้น และเด็กผู้ชายก็เลือกเรียนเยอะมากๆ มากจนบางทีเด็กผู้หญิงรู้สึก (ไปเอง) ว่าควรจะเลือกเรียนสายอื่นๆที่ซอฟท์หรือกลางๆมากกว่า

หลังจากนั้น เราก็ถูกพาออกมาที่สวนของโรงเรียน มันดีย์มากกกกกกก (ก.ไก่ ล้านตัว) มันเขียวขจี มีความ Alice in Wonderland มีความนาร์เนีย ขั้นสุด 😂 สวยจนเราไม่อยากเชื่อว่า นี่เป็นสวนของโรงเรียนแล้วเด็กได้มาชิลกันตรงนี้จริงๆเหรอ? (น้องบอกว่าจริง ทั้งมาวิ่งเล่น นอนชิล อ่านหนังสือ ฯลฯ) แถมเหลือบไปเห็นสนามเทนนิสไปอิ้กกก เลยได้รู้ว่าถึงจะเป็นหญิงล้วน เด็กๆที่นี่ Sporty กันมากๆ ทั้งขี่ม้า ฟันดาบ เทนนิส ยิมนาสติก ฯลฯ ล้วนไปแข่งระดับภูมิภาค ระดับประเทศมาแล้ว!!

มีมุมนึงที่ชอบมากเป็นพิเศษในสวนนี้ คือจะมาม้านั่งอยู่ ไม่ใช่ม้านั่งไก่กา!! แต่มีสตอรี่ความเป็นมา นักเรียนหญิงคนนึงของ Adcote School นางเคยเป็น Head Girl (คล้ายกับประธานนักเรียน) รุ่นปี 1991-92 😱 ได้มาพบรักกับแฟนหนุ่มในงาน Ball ของโรงเรียน (ที่พาผู้ชายเข้ามาได้) มี First Kiss บนม้านั่งนี้ และถูกขอแต่งงานที่นี่ด้วย มุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งที่ซู๊ดดดด คุณยาย Slay มากๆค่า

แอบแวบเข้าไปดู Gym ของน้องๆที่เรียนพละอยู่ (Gym ใหญ่ม๊ากกกกกกก) เจอน้องๆตัวเล็กนิ้สเดียวอีกแล้ว กำลังเรียนยิมนาสติก เก๋มากกกก.. ที่สำคัญ แทรมโพลีน ใหญ่ม๊ากกก สมกับเป็นความบริทิช (ขอบอกว่าเด็กๆที่อังกฤษนี่ ทุกคนต้องโตมากับการเล่นแทรมโพลีนนะคะ 5555)

มุมแดง น้องๆดูจริงจังกับการออกท่าทางตีลังกายิมนาสติกสุด มุมขวา น้องๆอีกกลุ่มนึงกำลังห้ำหั่นเล่น Benchball กันอย่างเอาเป็นเอาตาย 😂 น้องนักเรียน Adcote บอกกับเราว่า (นอกจากน้องจะเลือกเรียนพละเองแต่แรกแล้ว) ที่นี่ก่อนครูจะสอนพละ จะถามก่อนว่าทุกคนอยากทำอะไร อยากเล่นแบดฯ อยากเล่นอะไร? เมื่อได้ข้อสรุปได้ ก็ค่อยเริ่มสอน ซึ่งสำหรับเราพละมันควรจะเป็นแบบนี้แหละ ต่อให้จะเป็นเด็กที่ไม่ได้ใฝ่ได้ความรู้ด้าน Physical Education อย่างน้อยก็ได้ขยับ ได้ออกกำลังกาย ได้สนุกไปกับกีฬา (ที่เลือกเอง)

อดนึกย้อนไปสมัยเราเรียนเซนต์โยฯไม่ได้ อาจจะด้วยความเป็นหญิงล้วน ทุกคนจะเหม็นวิชาพละมาก ให้ออกท่าทางให้เล่นอะไร คือมินิมอลสุด (รำดาบไปเพื่ออะไร ทำไมชั้นต้องซ้อมเต้นลีลาศ? ยังคงเป็นปริศนาธรรมจนทุกวันนี้ 555555)

มาคาบศิลปะที่ Art Studio ของ Adcote School ยิ่งหลงรักโรงเรียนนี้ ทัศนคติ และคุณภาพการเรียนการสอนที่นี่มากขึ้นไปอีก ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามา คือได้ยินเสียงเปิดเพลงสร้างมู๊ด คลอไปเบาๆเป็น Background รู้สึกได้เลยว่าแบบ.. เหยย.. โรงเรียนนี้แม่งเฟี้ยวอ่ะ 😲

พอเดินไปรอบๆห้องก็สังเกตว่า เด็กแต่ละคนทำชิ้นงานไปคนละทิศคนละทาง ไม่เหมือนกันเลย ถามคุณครูจนได้ความว่า พอเริ่มต้นปีการศึกษา นักเรียนจะได้เรียนและฝึกเทคนิคพื้นฐานแบบเดียวกันก่อน พอรู้เทคนิคพื้นฐานแล้ว จะเอาไปใช้ในการทำผลงาน คอนเสปแบบไหนก็แล้วแต่เด็กแต่ละคนจะสนใจ

"ครูคิดว่านักเรียนจะทำผลงานออกมาได้ดีกว่ามาก พัฒนาเรียนรู้ไปได้ไกลมาก ถ้าเค้าได้เลือกทำในมุมที่สนใจ ถ้านักเรียนทำแต่งานที่ครูสั่งให้ทำ ก็เหมือนทำให้จบๆไป มันไม่มี Passion ในสิ่งนั้น แต่ถ้านักเรียนมีสิทธิเลือกทำโปรเจคที่สนใจเอง ทุกคนจะขยันทำผลงาน ไม่ใช่เพราะโดนบังคับให้ทำ แต่ทำเพราะสนใจอยากทำจริงๆ เราอยากทำทุกอย่างเพื่อดึงศักยภาพที่ดีที่สุดของเด็กออกมา"

ฟังแล้วน้ำตาจะไหล อยากให้การศึกษาไทยมาได้ถึงจุดนี้บ้างจริงๆ 😂 ขอมอบมง พร้อมเสลี่ยงทองพุ่มประดับ 9 พุ่มให้กับคุณครู Adcote School เลยค่ะ

ในบรรดาผลงานของน้องๆ ประทับใจอันนี้มาก คือมีน้องนักเรียนอังกฤษนางวาดเพื่อนคนจีนค่าา นางออกแบบคอนเสปต่างๆบนคอมพิวเตอร์ก่อนลงมือเพนท์จริงบนผ้าใบ ปรากฏว่าลงเฉดสีผิวเพื่อนผิด เลยตัดสินใจไม่ทำต่อ คาไว้เก๋ๆแบบครึ่งหน้า 😂 ถ้าใครดูในคลิปรีวิวตัวเต็ม จะเห็นน้องคนที่เป็นแบบตัวเป็นๆด้วยนะ ดูสิว่าจะหาเจอกันรึเปล่า

คาบ Textiles เรียนเกี่ยวกับออกแบบตัดเย็บต่างๆ (พาลทำให้เรานึกถึง กพอ สมัยก่อน 5555 แต่ของ Adcote School เค้าเก๋และ Advance กว่าเยอะม๊ากกก) โดยนอกจากตัดเย็บแล้ว ก็มีเทคนิคการย้อม เทคนิคการจัดการผ้า การออกแบบคอนเสปงานในลักษณะต่างๆ ซึ่งก็เหมือนเดิม เด็กๆแต่ละคนจะมีไอเดียโปรเจคเป็นของตัวเอง

คลาสนี้ดูจะเป็นที่นิยมของหมู่นักเรียนเอเชีย อาจจะด้วยความที่สายแฟชั่นกำลังเป็นที่นิยม (พอๆกับคลาส Maths 😂 ที่เด็กเอเชียส่วนใหญ่ก็เน้นลง เพื่อต่อยอดไปเรียนคณะด้านธุรกิจ) ซึ่งยืนยันนอนยัน จากพี่ GoUni ที่จบป.ตรีด้าน Fashion มา ว่าทักษะที่น้องๆเรียนที่นี่ ได้ใช้จริงแน่นอนในเลเวลที่มากขึ้น (อดหลับอดนอนมากขึ้น 555) ในระดับมหาวิทยาลัย

แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ลงเรียนวิชานี้จะพุ่งเป้าไปเรียนแค่แฟชั่นอย่างเดียว เช่นน้องเจมี่ เด็กไทยในคลาสนี้ ก็ลงเรียนเพื่อเอาเทคนิคการออกแบบ ความครีเอท ไปต่อยอดในการเรียนต่อด้าน Exhibition หรือ Event ในอนาคตได้เหมือนกัน

คาบเรียนทำอาหาร วันนี้น้องๆทำเมนูขนมฝรั่งเศส ยืนดูไป ก็รู้สึกเหมือนดูรายการ Martha Stewart หรือไม่ก็ British Bake Off อยู่ 😂 555555 คือเรียนแบบเรียนจริงจัง ที่นี่เค้าใส่ใจทุกรายละเอียด ทุกรายวิชาจริงๆ ทางเราต้องขอยอมใจ ถึงเนื้อหาจะไม่ยากไม่วิชาการจ๋า เหมือนวิชาภาษา วิทย์ คณิต ฯลฯ แต่มันไม่มีวิชาไหนที่เรารู้สึกว่า นี่เป็นแค่วิชาเสริม เด็กๆก็จริงจังและเอนจอยในเวลาเดียวกัน (และอิ่มอ้วนถ้วนสมบูรณ์ 5555)

ช่วงพักเล็ก เด็กเล็กๆส่วนใหญ่จะวิ่งเล่น โยนบอลกันในสนามเด็กเล่น บางส่วนก็จะมารวมตัวซ้อมดนตรี ซ้อมประสานเสียง ยิ่งนั่งฟังยิ่งอินแถมด้วยบรรยากาศโรงเรียนอีกอะไรอีก ยิ่งรู้สึกอินเข้าไปใหญ่ Adcote School คือวิชาการดี กิจกรรมเริ่ดที่แท้ทรู 😆 นึกถึงสมัยก่อนตอนนี่อยู่เซนต์โยเลย ยิ่งโตยิ่งรู้สึกเหมือนเราลืมไปแล้วว่าเราเคยมี Passion เคยเอนจอยกับเสียงดนตรีมากขนาดไหน

สำหรับอาหารกลางวัน เราว่ารสชาติไม่ได้โอ้ว้าว อลังกาลอะไรขนาดนั้น ก็ทานได้พออร่อย ที่ชอบและอร่อยติดตรึงใจกลับเป็นน้ำ Elderflower 😂 เป็นน้ำดอกไม้ มีรสหวานอ่อนๆ แต่ที่ชอบคือตัวเลือกหลากหลายมากกกกกกของคาว หวาน สลัด ซุป มีให้เลือกเต็มไปหมด โดยทุกวันศุกร์จะมี Fish & Chips (แสดงให้เห็นว่ามีเด็กนักเรียนบริทิชเยอะจริง 5555555) บังเอิ๊ญญ เราได้ไปวันศุกร์พอดี และขอบอกว่า Fish & Chips ที่นี่อร่อยกว่าทุกที่ที่เคยทานมาในลอนดอน 5555 ทั้งที่ปกติเราเป็นคนไม่ชอบ Fish & Chips มากๆ

ที่อังกฤษจะให้ความสำคัญกับ Deit Requirement ของแต่ละคนมาก (เช่น มีเมนูสำหรับคนไม่ทานเนื้อสัตว์ ข้างตู้กดน้ำผลไม้ ก็จะมีติดกำกับคำเตือนสำหรับคนเป็น Diabetes เบาหวาน) ซึ่งเท่าที่เห็นมาก็เป็นแทบทุกโรงเรียนไม่ใช่แค่กับ Adcote School ซึ่งเป็นอีกมุมนึงที่ประเทศไทย ยังไม่ให้ความใส่ใจมากนัก

ทริปวันนี้จะไม่สมบูรณ์น่าประทับใจ และ ฟิน (?) เท่านี้เลยถ้าขาดน้องสองคนนี้ไป Marta กับ Elena (Year12) ซึ่งมาเป็นไกด์พาทีม GoUni เดินดูโรงเรียนในวันนี้ ที่บอกว่าน่าประทับใจเพราะว่า เราสัมผัสได้จริงๆว่าน้องรักโรงเรียน น้องเอนจอยในการเรียนรู้ ตลอดระยะเวลาที่เดินดูโรงเรียนด้วยกัน น้องก็จะดูสนอกสนใจ เข้าไปแจมไปพูดคุยกับน้องๆในคลาสนั้นๆ รู้สึกถึงความกันเองในโรงเรียนมากเข้าไปอีกกกก

สมแล้วที่น้องทั้งสองคนเป็น House Captain ของสองบ้านจาก Adcote School (ใช่ค่ะ!! ที่นี่มีแบ่งเป็นบ้านๆ เหมือนในแฮร์รี่ พอตเตอร์เลย!!) 😆 โดยแต่ละบ้านก็จะมีสีเป็นของตัวเอง เช่นของน้อง Marta ก็จะเป็นสีเขียว Elena อยู่บ้านสีเหลือง แต่น้องดันลืมติดเข็มกลัดกัปตันมา เลือกเอานะคะ ว่าอยากอยู่สลิธีริน หรือ ฮัฟเฟิลพัฟ อิอิ ซึ่งทั้งสองคน ก็มุ่งมั่นที่จะเป็น Head Girl ในปีต่อไปด้วยค่ะ (ที่อังกฤษเรียนถึง Year13 ก่อนจะเข้ามหาวิทยาลัย 3ปี)

นอกจากระบบให้คะแนนบ้านดีเด่นเหมือนในแฮร์รี่ พอตเตอร์แล้ว ที่ Adcote School เด็กๆจะได้เข็มกลัดต่างๆเวลาทำอะไรสำเร็จ เช่น แข่ง Netball หรือ ทำโครงการอาสาต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ เป็นเหมือนตัวกระตุ้นให้เด็กๆอยากทำกิจกรรม สร้างเสริมประสบการณ์ต่างๆที่ไม่ใช่ในห้องเรียน ฝึกสกิลที่จำเป็นในการใช้ชีวิต และเอาไปเป็นโปรไฟล์ในการยื่นเข้ามหาวิทยาลัยดีๆต่อไปในอนาคต (ขอบอกว่า เด็กบางคนนี่ ติดแน่นพรึ่บเต็มปกเสื้อเลยค่ะคุ๊ณณณณ)

ประทับใจในความมุ่งมั่นของน้องๆมาก น้องๆทำให้รู้สึกว่า การเป็นนักเรียนที่เก่งทั้งเรียนทั้งกิจกรรม ไม่ใช่เรื่องที่ Lame เหมือนที่เด็กในโรงเรียนไทยหลายคนถูกจำกัดไว้ ระบบการเรียนที่อังกฤษทำให้เด็กๆกล้าทำกล้าคิด กล้า thrive for the best และที่ Adcote School เองก็มีโปรแกรมต่างๆที่ช่วยผลักดัน เช่น โครงการผลักดัน The Next Generation of Women Leaders ซึ่งในฐานะผู้หญิงที่เคยเรียนหญิงล้วนมา รู้สึกว่าเป็นอะไรที่ดีมากกกกก

ค่าใช้จ่าย

• Year 7-9 (อายุ 11-13 ปี) - ค่าเรียนตลอดปี รวมค่าหอพักและอาหาร £26,190
• Year 10-11 (อายุ 14-15 ปี) - ค่าเรียนตลอดปี รวมค่าหอพักและอาหาร £28,890
• Year 12-13 (อายุ 16 ปีขึ้นไป) - ค่าเรียนตลอดปี รวมค่าหอพักและอาหาร £28,890

หรือหากน้องๆสนใจมาเรียนซัมเมอร์ที่ Adcote School ช่วงปิดเทอม หรือเรียนแบบแลกเปลี่ยนแค่เฉพาะเป็นเทอมหรือรายปีการศึกษาไป สามารถ ติดต่อทีมงานที่ปรึกษา GoUni เพื่อขอโบรชัวร์และข้อมูลเพิ่มเติมได้ค่ะ

ทุนการศึกษา

ทุนการศึกษาสำหรับเด็กไทยที่จะเข้า Year 7-9

• จำนวน: £7,275 ต่อปี
• คุณสมบัติ: อายุ 11-13 ปี มีเกรดที่ดีจากโรงเรียนก่อนหน้า

ทุนการศึกษาสำหรับเด็กไทยที่จะเข้า Year10-Year11 (GCSE)

• จำนวน: £16,050 สำหรับตลอด 2ปี
• คุณสมบัติ: กำลังเรียน Y9 อายุ 14-15 ปี ผ่านการทดสอบ Maths and English และการสัมภาษณ์

ทุนการศึกษาสำหรับเด็กไทยที่จะเข้า Year12-Year13 (A-Levels)

• จำนวน: £16,050 สำหรับตลอด 2ปี
• คุณสมบัติ: กำลังเรียน Y11 อายุ 16 ปีขึ้นไป ผ่านการทดสอบ Maths and English และการสัมภาษณ์

/

GoUni พร้อมให้บริการในการให้ข้อมูลและดำเนินการสมัครกับ Adcote School เรามีออฟฟิสพร้อมดูแลทั้งที่ไทยและอังกฤษ ไปจนถึงการทำวีซ่าและจองตั๋วเครื่องบินให้กับน้องๆและผู้ปกครอง ไม่ว่าน้องๆจะเรียนอยู่ที่ไทยหรืออังกฤษ สามารถติดต่อทีมงานของเราที่ประจำอยู่ที่ทั้งสองประเทศได้ 0203735 7100 (UK) 029677003 (ไทย) โดยออฟฟิสของเราเปิด จ-ศ เวลา 10.00-18.00น. หรือ info@gouni.co.th ค่ะ