✨ นักเรียนในอังกฤษเดินทางไปเรียนกันยังไง? ✨
1. รถเมล์ 🚌
การเดินทางโดยรถเมล์เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักเรียนเลย เพราะส่วนใหญ่แล้วค่าเดินทางจะถูก และยิ่งถ้าเราเป็นนักเรียน เราก็จะได้ส่วนลดเพิ่มเข้าไปอีกเมื่อเราซื้อตัวเป็นรายสัปดาห์ รายเดือน และรายปี ก่อนเดินทางแนะนำให้เช็คกับ Google Maps หรือแอพ CityMapper(แอพยอดนิยมของที่นี่) เพราะเราจะได้รู้ว่ารถเมล์ที่เราจะขึ้น ใช้เวลาเดินทางนานแค่ไหนไงจ๊ะ
รถเมล์ในลอนดอน
น้องๆ จะซื้อตั๋วกับคนขับรถเมล์ไม่ได้นะจ๊ะ เราต้องเดินทางด้วยบัตร Oyster เท่านั้น หรือจะใช้บัตรเครดิต/เดบิต ที่เป็นแบบ contactless แตะจ่ายก็ได้ และ Apple Pay กับ Google Pay บนมือถือก็ใช้ได้เหมือนกัน อีกตัวเลือกหนึ่งคือ ซื้อบัตรขึ้นรถเมล์จากสถานีรถไฟก็ได้ด้วย โดยบัตรราคา 1.50 ปอนด์ สามารถขึ้นรถเมล์ได้ 1 ชั่วโมง ซึ่งจะขึ้นกี่สายก็ได้ ไม่จำกัดจ้า
แต่ถ้าน้องๆ คนไหนเดินทางโดยรถเมล์เป็นประจำ ก็ควรสมัครบัตร Student Oysterไว้ เพราะเราจะได้รับส่วนลดค่ารถไฟ/ใต้ดิน(Tube) 30% เมื่อเราซื้อตั๋วรายสัปดาห์/รายเดือน/รายปี และเราจะได้ขึ้นรถเมล์ฟรีจ้า
รถเมล์นอกลอนดอน
เราสามารถซื้อตั๋วกับคนขับรถเมล์ๆด้เลย แต่ทางที่ดีควรเตรียมเศษไปให้พอดีนะจ๊ะ เพราะส่วนใหญ่รถเมล์ที่นี่เค้าจะไม่ทอนเงินให้เรา และส่วนใหญ่เราจะใช้บัตรเครดิต/เดบิด แบบ contactless จ่ายได้เหมือนกัน แต่หลายๆ เมือนใน UK ตอนนี้ก็มีบัตรที่คล้ายๆ กับบัตร Oyster ให้เราใช้เหมือนกัน แต่แต่ละเมืองก็จะมีบัตรที่ต่างกันออกไป ซึ่งส่วนใหญ่แล้วถ้าเราจ่ายด้วยบัตรพวกนี้ เราจะได้ส่วนลด และก็สะดวกขึ้นด้วย
*น้องๆ สามารถเช็คเวลารถเมล์ได้จากแอพ UK Bus Checker ได้นะ
รถเมล์มหาวิทยาลัย
ในหลายมาหาวิทยาลัยจะจัดรถเมล์ไว้ให้นักเรียนขึ้นฟรี (เช่น มหาวิทยาลัย Southampton จะมี Unilink) เพื่อเดินทางระหว่างแคมปัส เพราะบางมหาวิทยาลัยมีถึง 2-3 แคมปัสเลย และรถเมล์ระหว่างมหาวิทยาลัยกับ city centre รถเมล์มหาวิทยาลัยก็ออกเป็นเวลาเหมือนกัน แต่อาจจะไม่มีโชว์ในแอพนะจ๊ะ ทางที่ดีต้องลองเช็คดูแล้วว่ามหาวิทยาลัยที่เราเรียนอยู่หรือกำลังจะไปเรียนมีรภเมล์ฟรีให้นั่งมั้ย และเดินทางกี่โมงบ้าง 😆
3. รถไฟ/รถไฟใต้ดิน(Tube) 🚆
สำหรับใน UK แล้ว การเดินทางด้วยรถไฟมักจะเร็วกว่ารถเมล์ (และบางทีก็เร็วกว่ารถยนต์ด้วย) โดยน้องๆ สามารถสมัคร 16-25 Railcard เพื่อใช้เป็นส่วนลดค่ารถไฟได้ในช่วงเวลา off-peak (ตอนไหนก็ได้ยกเว้นช่วงเช้าวันจันทร์-ศุกร์) ซึ่งบัตรนี้ราคา 30 ปอนด์/ปี แต่บอกเลยว่าคุ้มจริงๆ และเรายังสามารถเชื่อมบัตรนี้เข้ากับบัตร Oyster ได้ด้วย
ถ้าใครจะจองตั๋วรถไฟ แนะนำให้จองตั้งแต่เนิ่นๆ นะจ๊ะ เพราะตั๋วรถไฟที่นี่ยิ่งจองล่วงหน้านานก็ยิ่งถูก และสามาถเข้าไปในเว็บ The Trainline เพื่อเช็คราคาตั๋วรถไฟได้เลย ซึ่งเว็บนี้จะช่วยเราหาตั๋วถูกๆ จ้า
4. แท็กซี่ 🚖
เราสามารถหาแท็กซี่ได้ในทุกเมืองของ UK เลย ใครรีบๆ ก็เรียกแทกซี่แล้วขึ้นไปนั่งได้เลย แบบนี้นี้จะสะดวกกว่า แต่อาจจะแพงกว่า โดยเฉพาะในลอนดอน นอกจากว่าเราจะหารค่าแทกซี่กับเพื่อนนะ 😆 รถแทกซี่ Black cab ในลอนดอน สามารถจ่ายผ่านบัตรเครดิต/เดบิตได้ด้วยนะ
แต่ก็ยังมีตัวเลือกอื่นอยู่ เช่น พวกบริษัทเอกชนต่างๆ (เราต้องโทรจองล่วงหน้า) ซึ่งแบบนี้จะถูกลงมา ฉะนั้นเซฟเบอร์บริษัทแทกซี่ใกล้บ้านน้องๆ ไว้เลยนะคะ เผื่อว่าวันไหนต้องกลับบ้านดึก และรถบัสหมดรอบแล้ว
และที่สะดวกสุดๆ และเป็นที่นิยมมากในตอนนี้คือ Uber ซึ่งให้บริการเกือบทุกเมืองใน UK เลย และที่สำคัญคือถูกสุดในบรรดาแทกซี่แล้ว และเราสามารถจ่ายเงินออนไลน์ได้เลย ซึ่งระบบจะตัดเงินจากบัตรทันทีเมื่อเราถึงที่หมาย ทั้งนี้ราคา uber ในแต่ละเมืองจะแตกต่างกันออกไป เช่น ลอนดอนรถติดกว่าที่อื่น ก็อาจจะแพงขึ้นมาหน่อย แต่ก็ไม่น่าเกลียด เพราะยังไงราคาก็ขึ้นอยู่กับระยะทางอยู่แล้ว นอกจากนี้ก็ยังมีแอพอื่นๆ ให้น้องๆ เลือกใช้อีกด้วยน้า
5. จักรยาน 🚲
ถ้าใครสามารถทนกับอากาศหนาวได้ การปั่นจักรยานไปเรียนก็เป็นตัวเลือกที่ดีอีกตัวเลือกหนึ่งเลย เพราะนอกจากประหยัดแล้วยังได้ออกกำลังกายอีกด้วย เพราะใน UK มีหลายเมืองมากที่เอื้อกับการปั่นจักยานไปเรียน เช่น Cambridge และ Brighton ส่วนใหญ่แล้วที่นี่จะมีเลนจักรยานให้เราปั่น อย่าไปปั่นบนทางเท้านะจ๊ะ และที่นี่ไม่บังคับให้ใส่หมวกกันน็อคนะ แต่แนะนำให้ใส่จะดีกว่าน้า
ตามไปดูกันว่านักเรียน GoUni ไปเรียนยังไงกันบ้าง
เป็นนักเรียนที่นี่คือเดินทางสะดวกมากกกก ถ้าอยากสัมผัสประสบการณ์แบบนี้ ต้องมาเรียนอังกฤษกับ GoUni เท่านั้นนะ ><
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือต้องการความช่วยเหลือในการสมัครเรียน
ติดต่อเข้ามาได้ทาง:
Line: @gounithailand (มี@)
Tel: 093-323-0500
Facebook: GoUni Thailand
Leave A Comment
รับข่าวสารจากเรา
เราจะคอยอัปเดตคุณด้วยการแจ้งเตือนข่าวสารและความช่วยเหลือเมื่อคุณต้องการ