✨ สิ่งที่เราจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลใน UK ✨
การรักษาพยาบาลใน UK ได้งบประมาณจากสาธารณะ
The NHS (National Heath Service) เป็นองค์กรที่ได้รับทุนและการสนับสนุนจากรัฐบาล นั่นคือเราแทบจะไม่ต้องจ่ายค่าบริการอะไรเลย แต่ UK ก็มีโรงพยาบาลเอกชนเหมือนกับบ้านเรานั่นแหละ ซึ่งคนที่ใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนที่นี่คือรวยมากๆ เพราะหากเราใช้บริการ NHS เราจะไม่ต้องเสียค่าบริการอะไรเลย และบริการก็ถือว่าโอเค เหมาะสมกับราคา 😄 แต่ถ้าเรามาเป็นนักเรียนที่นี่ ในขั้นตอนการยื่นวีซ่า เราจะต้องจ่ายค่า NHS surcharge ฉะนั้นหากเราเจ็บป่วยระหว่างที่เรียนอยู่ที่นี่ เราก็สามารถเดินไปใช้บริการที่สถานพยาบาลใกล้บ้านฟรีได้เลย
แล้วมีอะไรที่เราจะต้องเสียค่าบริการบ้าง?
- ถ้าเราเรียนอยู่ที่อังกฤษ เราจะต้องจ่ายเงิน 8.80 ปอนด์ สำหรับใบสั่งยา แต่ถ้าหากเราอยู่สก็อตแลนด์ เวลส์ หรือไอร์แลนด์เหนือ เราก็จะไม่ต้องเสียค่าบริการนี้จ้ะ 🙂💊
- การรักษาฟันและช่องปากนั้นไม่ฟรีนะคะ แต่ถ้าใครจำเป็นจะต้องใช้บริการจริงๆ เราสามารถขอใช้บริการจากทาง NHS ได้ เพราะราคาจะถูกลง 🦷
- การวัดสายตาและตัดแว่นจะต้องเสียค่าบริการเองนะคะ แต่ก็จะมีร้านแว่นบางร้านที่ให้บริการวัดสายตาฟรี 👓
ไปร้านขายยาหากเจ็บป่วยไม่รุนแรง
ถ้าเราป่วยนิดหน่อย เช่น ปวดหัว เป็นหวัด หรือเป็นผื่นคัน เราสามารถไปที่ร้านขายยาได้เลย เค้าสามารจ่ายยาได้ตามที่เราต้องการได้ แต่ถ้าดูแล้วอาการเราค่อนข้างหนัก เค้าจะแนะนำให้เราไปพบแพทย์จ้ะ
ถึงแม้ว่า NHS จะให้เราใช้บริการได้ฟรี แต่ถ้าเราทำให้หมอหรือพยาบาลเสียเวลา เช่น เราไปพบแพทย์ด้วยอาการเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งกินยาเองก็หาย เค้าก็มีโอกาสจะเหวี่ยงเราได้เหมือนกันนะ
แต่ยังมีอีกทางเลือกหนึ่ง หากเราต้องการข้อมูลหรือคำปรึกษาเกี่ยวอาการ ความเจ็บป่วย เราสามารถเช็คข้อมูลออนไลน์ได้ที่ www.nhs.uk รับรองว่าข้อมูลเชื่อถือได้แน่นอนจ้ะ
ยาตามซุเปอร์มาร์เก็ตมักจะถูกกว่า
ส่วนใหญ่แล้วซุเปอร์มาร์เก็ตที่มีขนาดใหญ่หน่อยจะมียาทั่วไปขาย เช่น paracetamol, ibuprofen, anti-histamines ซึ่งร้านขายยามักจะขายยาสามัญประจำบ้านพวกนี้ในราคาที่สูงกว่าซุเปอร์มาร์เก็ตเยอะมาก
ควรลงทะเบียนกับ GP ใกล้บ้าน
GP ย่อมาจาก General Practitioner ก็คือหมอที่อยู่ในละแวกที่เราอยู่นั่นแหละ เพราะเวลาเราป่วยขึ้นมา เราจะต้องไปพบแพทย์ท้องถิ่นนี้ก่อนที่เราจะได้รับการรักษาต่างๆ แนะนำว่าให้ไปลงทะเบียนตอนที่ร่างกายเราปกติดี ไม่เจ็บไม่ป่วยนะจ๊ะ เพราะถ้าวันไหนเราเกิดป่วยขึ้นมา เราจะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาลงทะเบียน และจะได้รักษาให้ทันท่วงทียังไงล่ะ
หากมีเหตุฉุกเฉินสามารถไปที่ URGENT CARE หรือ WALK-IN CENTRES หรือโทร 111 ได้เลย
เราสามารถไปที่ urgent care centres และ walk-in centres หากเรามีอาการบาดเจ็บที่รุนแรง แต่ไม่ถึงขั้นอันตรายถึงชีวิต เช่น กระดูกหัก ข้อแพลง หรือแผลที่ต้องมีการเย็บต่างๆ
111 เป็นเบอร์ของฉุกเฉินของ NHS หากเราป่วยหนัก แต่ไม่สามารถรอ GP ได้ แต่อย่างที่บอก ต้องไม่อันตรายถึงชีวิตนะ เราโทรไปที่ 111 ได้เลย เช่น หากเราปวดท้องมากๆ หรือเจ็บหน้าอกมากๆ และเราไม่รู้ว่าเราเป็นอะไร เราสามารถโทรไปขอความช่วยเหลือจาก 111 ได้เลย ที่สำคัญคือ หากเพื่อนๆ คนไหนเพิ่งมาอังกฤษใหม่ๆ ยังไม่ค่อยมั่นใจในการอธิบายอาการในภาษาอังฤษ ที่นี่เค้ามีล่ามให้เราด้วยนะ
A&E และ 999
A&E มีไว้เพื่ออาการบาคเจ็บที่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ แต่ถ้าใครมาที่นี่ด้วยอาการที่ไม่รุนแรงขนาดนั้น เราอาจจะต้องเสียเวลาในการรอหน่อย
999 เป็นเบอร์ฉุกเฉินของ UK ถ้าเราโทรไป เราอาจจะต้องระบุว่าเราต้องการติดต่อตำรวจ รถพยาบาล หรือดับเพลิง ซึ่งเราควรโทรไปเบอร์นี้ก็แต่เมื่อมีเหตุฉุกเฉินจริงๆ เช่น มีอุบัติเหตุรถชน หรือ โรคหัวใจล้มเหลว แต่ถ้าเราโทรไปโดยไม่มีเหตุฉุกเฉินอะไรเราก็อาจจะเดือดร้อนได้นะ
หรือน้องๆ มีอะไรให้ช่วยเหลือ สามารถติดต่อทีม GoUni ทาง UK ได้เลย พี่ๆ ยินดีให้ความช่วยเหลือนะคะ 😊
Leave A Comment
รับข่าวสารจากเรา
เราจะคอยอัปเดตคุณด้วยการแจ้งเตือนข่าวสารและความช่วยเหลือเมื่อคุณต้องการ