ความแตกต่างระหว่างการเรียนมัธยมปลายที่ไทยและ UK

icon-time 15 มิถุนายน 2020
icon-view 4171
icon-comment20

ทำไมต้องเรียนมัธยมปลายที่อังกฤษ?

โรงเรียนในสหราชอาณาจักรขึ้นชื่อในเรื่องของความปลอดภัยและมาตรฐานการศึกษาระดับสูง โดยครูผู้สอนไม่เพียงแค่ถ่ายถอดวิชาความรู้ แต่มุ่งเน้นการช่วยเหลือนักเรียนให้ค้นหาตัวตนไปด้วย รวมไปถึงการดูแลอบรมนักเรียนโดยปราศจากการลำเอียงให้เป็นคนคุณภาพ มีระเบียบวินัย และปลูกฝังความเป็นผู้นำ กระตุ้นให้เด็กแสดงพรสวรรค์ออกมาผ่านกิจกรรมนอกห้องเรียนต่างๆ

นอกจากนักเรียนจะพัฒนาความรู้ในสายวิชานั้นๆแล้ว ยังพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ทั้งจากในห้องเรียนและความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมของสังคมต่างชาติด้วย เตรียมพร้อมสำหรับน้องๆที่ต้องการเข้ามหาวิทยาลัยระดับแนวหน้า หรือ ทำงานในระดับ international

 

ความแตกต่างระหว่างการเรียนมัธยมที่อังกฤษและไทยมีดังนี้

Thai

VS

UK

At least 6 core modules

 เรียนอย่างน้อย 6 วิชาบังคับ

Module

โมดูล

5-7 core and optional modules

เรียน 5-7 วิชาบังคับและวิชาเลือก

Broad range of subjects

เน้นวิชาพื้นฐานทั่วไป มีให้เลือกหลากหลายและกว้างมาก เช่น ภาษาไทย พลศึกษา สุขศึกษา และสังคมศึกษา

Subject

วิชา

Specific subjects

Eg. Business, Art and Music

เน้นวิชาเฉพาะทาง เพื่อปูทางสู่คณะที่หวังไว้ในระดับมหาวิทยาลัย เช่น บริหารธุรกิจ ศิลปะ วรรณกรรม และดนตรี

Breath

เน้นรู้เยอะแบบกว้างๆ

Knowledge ความรู้

Depth

เน้นรู้ลึกรู้จริง

Large

เรียนห้องใหญ่ นักเรียนเยอะ

Class size

ขนาดห้อง

Small

เรียนห้องเล็ก นักเรียนน้อย เน้นถกเถียงกับครูและเพื่อนร่วมห้อง

Passive and generalised

เน้นท่องจำ เนื้อหาการเรียนเป็นไปตามหลักสูตรที่กำหนดไว้แล้วเท่านั้น

Curriculum

หลักสูตร

Active and personalised

เน้นฝึกฝนให้นำปรับใช้ได้จริง เนื้อหาการเรียนเป็นไปตามความสนใจของนักเรียน


การเตรียมตัวศึกษาต่อมัธยมปลายที่ UK

สำหรับนักเรียนไทยที่อยากไปเรียนต่อระดับมัธยมที่สหราชอาณาจักร หากเรียนจบม.3 แล้ว นักเรียนสามารถเลือกไปเรียนต่อในหลักสูตร GCSE (General Certificates of Secondary Education) ซึ่งจะเริ่มเรียนตั้งแต่อายุ 14 และเรียนไปจนถึงอายุ 16 เทียบเท่ากับชั้นม.4-5 ที่ประเทศไทย

โดยสามารถเลือกเรียน 8-12 วิชาที่เกี่ยวข้องกับคณะที่สนใจเพื่อเตรียมความพร้อมและทักษะต่างๆ เพื่อเข้าสู่คณะที่หวังไว้ในระดับมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นด้าน Arts, Maths, Business, Sciences, Languages, และอื่นๆ โดยจะมี 3 วิชาหลักบังคับคือภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์

นักเรียนจะต้องสอบ GCSE ผ่านอย่างน้อย 5 วิชา มีการให้เกรดตั้งแต่ 1-9 โดยมี 9 เป็นเกรดสูงสุดหรือเทียบเท่า A* (เริ่มใช้ระบบภายในปี 2019 เป็นต้นไป) ซึ่งเกรดที่ถือว่าผ่านคือ 4 ขึ้นไปจ้า เมื่อผ่านครบ 5 วิชาก็เป็นอันว่าจบการศึกษาระดับ Secondary Education และสามารถศึกษาในระดับ Further Education ต่อไป

อ่านต่อ: ข้อควรรู้ก่อนส่งลูกไปเรียนมัธยมที่อังกฤษ

20200616 เรียนมัธยมที่อังกฤษและไทย 01

วิธีเตรียมตัวศึกษาต่อมัธยมปลายที่ UK

การเลือกโรงเรียนมัธยมที่จะเรียนนั้นเป็นหนึ่งในขั้นตอนตัดสินใจยาก การจัดอันดับก็แตกต่างกันไปจากหลายสำนัก GoUni ก่อตั้งขึ้นเพื่อที่จะให้ข้อมูลที่เป็นกลางกับนักเรียนที่สนใจเรียนต่อในประเทศอังกฤษ

การวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนของแต่ละมหาวิทยาลัย และประสบการณ์ตรงจากทั้งนักศึกษาของเราและทีมงานที่อยู่ที่อังกฤษเอง โรงเรียนมัธยมแต่ละที่มีข้อดีเสียแตกต่างกันไป ดังนั้น GoUni จึงไม่มุ่งเน้นแค่ช่วยหาโรงเรียนมัธยมที่ดี แต่หาโรงเรียนมัธยมที่เหมาะกับความต้องการและข้อจำกัดของนักเรียนแต่ละคนด้วย!

 

Adcote School (เมือง Shrewsbury)

 

Myddelton College (เมือง Denbigh)

 

DLD College (London, Manchester, Cambridge)


 

Bellerbys College  (เมือง Brighton)

 

ขอบอกว่าระบบการศึกษาของอังกฤษมีหลักสูตรที่รองรับความต้องการของนักเรียนมากมาย สามารถปรึกษาและวางแผนเรียนต่อฟรีกับพี่ๆ GoUni ได้เลย จะได้ไม่พลาดโอกาสดีๆแบบนี้ ไม่มีการ ‘รู้งี้..ไปเรียนนานแล้ว’ ทีหลังนะคะ

 

อ่านเพิ่มเติม

123137455 1765666273590028 808299455065840966 O

ทำไมต้อง GOUNI?

  • ให้คำปรึกษาฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
  • สะดวกสบาย ทำให้น้องๆ มีเวลาในการทำงานหรือตั้งใจเรียน
  • มีสำนักงานใหญ่ที่ลอนดอน สามารถติดต่อกับสถาบันได้โดยตรง
  • ทีมงานของเรามีรุ่นพี่ศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัยระดับ Top
  • มีผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ด้านการแนะแนวกว่า 15 ปี

  

ให้การเรียนต่อต่างประเทศเป็นเรื่องง่าย

Official Line: https://lin.ee/SmbZgxh

Tel: 098-825-9840 / 093-323-0500

Facebook: https://m.me/gouni.th

Email: info@gouni.co.th