ผสมผสานการเรียนเข้ากับการฝึกงานกับโครงการ Work Placement Year เมื่อเรียนปริญญาตรีที่อังกฤษ!

icon-time 26 มิถุนายน 2017
icon-view 5263
icon-comment20

หลายๆคนเคยกล่าวไว้ว่าการมีประสบการณ์การทำงานที่เเท้จริงสำคัญกว่าการเรียนทฤษฏีในห้องเรียนไปวันๆ การเรียนรู้ที่ได้ผลที่สุดคือการผสมผสานการเรียนเข้ากับการทำงาน 😆 โครงการ Work placement เป็นโครงการที่ให้นักเรียนที่เรียนอยู่ในมหาลัยประเทศอังกฤษมีโอกาสได้ฝึกงานเเละทำงานที่ตัวเองสนใจอย่างเเท้จริง เป็นการผสมผสานการเรียนเข้ากับการทำงาน ทำให้น้องๆเชี่ยวชาญในสายงานนั้นๆมากขึ้น โครงการนี้ปกติเเล้วจะมีระยะเวลาระหว่าง 9-12 เดือน ทำให้มีเวลาในการเรียนรู้งานอย่างเเท้จริง ลืมไปได้เลยว่าการฝึกงานคือการใช้ให้ไปชงกาเเฟ ❌ หลังจากจบโครงการฝึกงานเเล้วก็กลับไปเรียนที่มหาลัยต่อ! ใครสนใจอยากรู้เพิ่มเติม กดเข้ามาอ่าน 😄

Visit-us-half-box-1.jpg

อะไรคือโครงการ Work Placement? 🌟

น้องคนไหนที่จะเริ่มเรียนปี 2 ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้สามารถสมัครเข้าโครงการ Work Placement ในปีนี้เพื่อเริ่มการฝึกงานในเดือนกันยายนใน ปี 2018 ปีหน้า หลังจากการจบการฝึกงานเเล้ว น้องๆถึงจะกลับกลับมาเรียนต่ออีกสองปี ในปี 2019 เเละ จบการศึกษาในปี 2020

NUL-blog.jpg

โครงการฝึกงานเปิดโอกาสให้น้องๆได้ทำงานอย่างเเท้จริง โดยต้องทำงานเเบบ Full-time ใน Office นั้นๆ โดยปกติเเล้วโครงการ Work placement จะมีระยะเวลาตั้งเเต่ 9 เดือนไปจนถึง 1 ปีเต็ม มหาลัยในประเทศอังกฤษหลายๆมหาลัย เช่น Newcastle University London เปิดโอกาสให้นักเรียนใช้เวลา 1 ปีในการฝึกงานก่อนจะกลับมาเรียนต่อ น้องๆที่ผ่านการคัดเลือกเข้า placement จะถือว่าผ่านการเรียนสองวิชานี้

  • Intercalating Year Personal Learning Record (100 credits)
  • Intercalating Year Reflective Learning Account (20 credits)

ทำไมฝึกงานไประหว่างการเรียนปริญญาตรีถึงเป็นเรื่องดี? 🌟

  • น้องๆจะมีโอกาสได้เรียนรู้งานเกี่ยวกับธุรกิจเเละบริหารอย่างเเท้จริง
  • น้องๆจะมีโอกาสได้เงินเดือนสูงถึง £16,000 ต่อปี ซึ่งถือว่าสูงมากสำหรับเด็กที่ยังไม่จบปริญญาตรี
  • น้องๆจะได้รับฝึกการทำงานอย่างเเท้จริง
  • น้องๆที่เข้าร่วมโครงการ Work Placement กับบริษัทต่างๆจะมีโอกาสได้รับเกรดตอนจบสูงกว่าเด็กที่ไม่ได้ร่วมการฝึกงาน ( ตัวอย่างเช่น เด็กที่เรียน Newcastle University Londonเเล้วได้รับการฝึกงาน ได้รับเกรดตั้งเเต่ 2:1 ไปจนถึง 1st)
  • สำหรับน้องคนไหนที่ตั้งใจทำงาน โชว์ความสามารถเเล้วเป็นที่น่าพอใจ น้องๆอาจจะมีโอกาสได้รับเข้าทำงานกับบริษัทที่ฝึกงานหลังเรียนจบก็เป็นได้! ☺️

giphy-4.gif

บริษัทที่มีการเปิดรับ Work Placement 🌟

  • Nike
  • Marks and Spencer’s
  • Porsche
  • HP
  • L’Oréal
  • Warner Brothers
  • PWC
  • Disney
  • P&G
  • Microsoft
  • Unilever
  • BMW
  • KPMG

คอยเช็คเว็บไซต์ของบริษัทที่น้องๆสนใจอยู่เรื่อยๆใน Page Career หรืออย่าลืมเข้าไปดูที่ Recruitment fairs เพื่อดูการเปิดรับสมัครนะจ๊ะ

loreal.jpgmicrosoft_banner1200x536.png

บริษัทเหล่านี้ล้วนเเล้วเเต่ประสบความสำเร็จเเละมีโอกาสเติบโตในหน้าที่การงาน ใครได้เข้าไปฝึกงานถือว่าดีมากๆ 👏🏼

ระหว่างการฝึกงาน 🌟

ระหว่างการฝึกงาน น้องๆจะมีโอกาสได้เรียนรู้งานอย่างเเท้จริง ลืมไปได้เลยสำหรับการฝึกงานยุคเก่าที่โดยใช้ให้ไปซีรอกซ์เอกสารหรือชงกาเเฟ เพราะโครงการ Work Placement เปิดโอกาสให้น้องๆได้เรียนรู้งาน มีการ Train สอนน้องๆตั้งเเต่เริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นเเผนก Management, sales, business development, marketing, human resources, finance, operations, business analysis ไปจนถึง recruitment 😆

04-Santander-Feature-3.jpg

เตรียมตัวไงดี? 🌟

  • เตรียมตัวเขียน CV หรือ Resume ให้ดี อย่าลืมไปในเเผนกเเนะเเนวของมหาลัยเพื่อขอความช่วยเหลือ
  • พยายามหาประสบการณ์ทำงานตั้งเเต่เนิ่นๆในช่วงซัมเมอร์ ถึงเเม้จะไม่มีเงินเดือนให้เเต่ขอให้มีประสบการณ์ไว้ก่อน! ส่วนใหญ่เเล้วบริษัทจะเปิดรับสมัครเด็กฝึกงานในช่วงกันยายน เพราะฉะนั้นคอยจับตาดูให้ดี !
  • คอยดูประกาศจากมหาวิทยาลัยของน้องๆเกี่ยวกับการสมัครโครงการนี้
  • ปรึกษาเเละถาม GoUni 😎

giphy-5.gif

การผสมผสานการเรียนในห้องกับประสบการณ์การทำงานอย่างเเท้จริงถือว่าเป็นการพัฒนาตนเองที่ดีที่สุด! 👍🏼

สุดท้ายนี้ สำหรับน้องๆคนไหนที่สนใจอยากยื่นสมัครมหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษ หรือสนใจอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Work Placement Programme เข้ามาหาเราเพื่อขอคำปรึกษาเเละวิธีการเตรียมตัวสมัคร ทางเราคอยให้ความช่วยเหลือน้องๆทุกคนนะเด้อ 🇬🇧

giphy-6.gif