จบ Art & Design จากประเทศอังกฤษ มีโอกาสทำงานอะไรบ้าง?
การศึกษาปริญญาโทที่อังกฤษ
การเรียนต่อระดับปริญญาโทในประเทศอังกฤษใช้ระยะเวลาเพียง 1 ปี ในขณะที่ในประเทศอื่นนักเรียนต้องใช้เวลานานถึง 2 ปี ซึ่งโอกาสนี้จะทำให้นักเรียนประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ค่าเรียนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 12,500 ปอนด์ต่อปี โดยค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับค่าครองชีพในเมืองที่เลือกไปและอันดับมหาวิทยาลัย
ทำไมต้องเรียนอาร์ตที่ DE MONTFORT UNIVERSITY?
De Montfort University เป็นมหาวิทยาลัยในฝันของเด็กสายอาร์ตเพราะติด Top 10 ด้าน Fashion and Textiles และ Top 26 ด้าน Art and Design ทำให้นักเรียน Art and Design มีโอกาสในการถูกจ้างงานสูงมาก (สูงจนเคยติดอัน 9 ของประเทศด้าน Graduate Prospects ในปี 2017 ที่ผ่านมานี้เอง)
ค่าเรียนก็ไม่แพง มีทุนให้ยาวๆ ถึงปีหน้า และสำหรับนักเรียนไทยที่จบป.ตรีภาคอินเตอร์ ไม่ต้องใช้ IELTS สมัครเรียนด้วยค่ะ! มาดูกันว่าเด็กอาร์ต DMU เรียนสาขาอะไร จบแล้วทำอะไรกันบ้าง เผื่อเป็นแรงบันดาลใจในการไปเรียนต่อสำหรับน้องๆ
SHAUNA RICHARDSON (สาขา FINE ART)
ใช้ศาสตร์แห่งการถักผสมกับการสตัฟฟ์สัตว์ (เรียกว่า crochetdermy มาจากคำว่า crochet กับ taxidermy) งานที่อลังสุดๆ ก็มีทั้ง Lionheart Project สิงโตยักษ์ 3 ตัวในตู้กระจกที่เดินทางไปทั่วลอนดอน เป็นรูปปั้นที่เกิดจากการถักทอที่ใหญ่ที่สุดในโลก!
BETHAN GRAY (สาขา THREE-DIMENSIONAL DESIGN)
ชนะรางวัล Best British Designer จากงาน Elle Decoration Awards ปี 2013 เธอทำคอลเลคชั่นที่ชนะรางวัลร่วมกับ Thomas Turner ผู้เชี่ยวชาญด้านเฟอร์นิเจอร์ เพื่อสร้างสรรค์โต๊ะหินอ่อนและของประดับตกแต่งสำหรับแบรนด์ Lapicida และห้างสรรพสินค้าชื่อดัง John Lewis หลังจากนั้นเธอก็ได้ทำงานร่วมกับแบรนด์ดังมากมาย สร้างคอลเลคชั่นขายดีออกมาอยู่เรื่อยๆ
GEORGE CROSBIE (สาขา ANIMATION DESIGN)
ได้ทำงานร่วมกับ Munk Studios ที่ลอนดอนเพื่อทำแอนิเมชั่นสำหรับงานโฆษณา นอกจากนี้ยังได้ทำงานที่ SixteenSouth สตูดิโอแอนิเมชั่นสำหรับเด็กที่เมือง Belfast ประเทศอังกฤษ เพื่อร่วมสร้างซีรีส์ Lily’s Driftwood Bay สุดโด่งดัง เขาเล่าว่าทุกอย่างที่เห็นในจอสร้างขึ้นมาจากรูปถ่ายจริง ไม่ใช่ภาพวาดอย่างที่คุ้นกัน ถือว่าทีมเขาจึงได้ทดลองทำอะไรใหม่ๆเพียบบบ
DAVID SHRIGLEY (คอร์ส ART FOUNDATION)
ได้รับเลือกให้เป็น nominee สำหรับรางวัลสุดโด่งดัง Turner Prize ในปี 2016 เป็นเจ้าของผลงานแกะสลัก Thumbs Up ที่ได้รับเกียรติให้ติดตั้งใจกลางลอนดอนย่าน Trafalgar Square ตอนนี้เขายังคงมุ่งหน้าสร้าง visual arts ต่อไปพร้อมทั้งล่ารางวัลระหว่างทางอย่างไม่หยุดหย่อน
ELLIE CARTA (สาขา CONTOUR FASHION)
ได้ทำงานในตำแหน่งผู้ออกแบบชุดชั้นในสำหรับแบรนด์ดัง Tommy Hilfiger ที่เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
ANNA SCOTT (สาขา FASHION BUYING WITH MARKETING)
ได้ทำงานกับแบรนด์เสื้อผ้า River Island ตำแหน่ง kidswear buying assistant ช่วยวางแผนการตลาดและจัดหาสินค้าที่เหมาะกับลูกค้ามากที่สุดมาวางขายนั่นเอง
ELISSA GRAINGER (สาขา CONTOUR FASHION)
ชนะการแข่งขัน ASOS Fashion Discovery (ชนะผู้เข้าแข่งขันกว่า 600 คน!) ได้รางวัลเป็นเมนเทอร์จากผู้เชี่ยวชาญและเงินจำนวน £50,000 สำหรับสร้างแบรนด์ของเธอเอง
ELLIE BARTON (สาขา DESIGN CRAFTS)
ได้ทำงานกับแบรนด์ตกแต่งภายในสุดหรูอย่าง deVOL โดยหน้าที่หลักคือปั้นแม่พิมพ์สำหรับเครื่องครัวและโคมไฟต่างๆ Ellie เน้นใช้สีเดียวและเฉดที่ต่างกันราวกับเส้นขอบฟ้า ซึ่งขัดแย้งกับรูปลักษณ์และวัสดุของภาชนะนั้นๆ เธอได้แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมคอนกรีตรูปลักษณ์ทรงพลัง (Brutalist Architecture) นั่นเอง
Facility ของมหาวิทยาลัย De Montfort University
มหาวิทยาลัยมีสตูดิโอสำหรับทำงานที่ยิ่งใหญ่อลังการ และที่เลื่องลือมากคือพื้นที่ส่วนกลางที่เปิดให้นักเรียนทุกชั้นปีมาระดมความคิดและทำงานด้วยกัน นี่มันแหล่งรวมแรงบันดาลใจในการทำงานชัดๆ!
นักเรียนสาขา Footwear Design บางคนก็ได้ทำงานกับ Lady Gaga บางคนก็ได้ทำงานกับแบรนด์หรูอย่าง Stella McCartney จะเห็นได้ว่าสาขาวิชาด้าน Art and Design ของ DMU มีให้เลือกหลากหลายมาก และเรื่องราวของพวกเขาเหล่านี้ก็แสดงให้เห็นว่า De Montfort University จริงจังเรื่องผลักดันนักเรียนทุกคนไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้มากแค่ไหน
ดูพี่ PEACHII #สตีเฟ่นโอปป้า พาทัวร์มหาวิทยาลัย
อ้างอิง
- Brilliant job prospects for DMU art and design graduates
- Shauna Richardson uses 'crochetdermy' to transform Leicester
- Bethan Gray wins Best British Designer title
- Aye aye, Captain! DMU grad redesigns classic TV ad character
- CLASS OF 2019: DMU fires Ellie up for creative career in ceramics
การเลือกมหาวิทยาลัยที่จะเรียนนั้น เป็นหนึ่งในขั้นตอนตัดสินใจยาก การจัดอันดับก็แตกต่างกันไปจากหลายสำนัก GoUni ก่อตั้งขึ้นเพื่อที่จะให้ข้อมูลที่เป็นกลางกับนักเรียนที่สนใจเรียนต่อในประเทศอังกฤษ
ดังนั้น GoUni จึงไม่มุ่งเน้นแค่ช่วยหามหาวิทยาลัยที่ดี แต่หามหาวิทยาลัยที่เหมาะกับความต้องการและข้อจำกัดของนักเรียนแต่ละคนด้วย!
ทำไมต้อง GOUNI?
- ให้คำปรึกษาฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
- สะดวกสบาย ทำให้น้องๆ มีเวลาในการทำงานหรือตั้งใจเรียน
- มีสำนักงานใหญ่ที่ลอนดอน สามารถติดต่อกับสถาบันได้โดยตรง
- ทีมงานของเรามีรุ่นพี่ศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัยระดับ Top
- มีผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ด้านการแนะแนวกว่า 15 ปี
ให้การเรียนต่อต่างประเทศเป็นเรื่องง่าย
Official Line: https://lin.ee/SmbZgxh
Tel: 098-825-9840 / 093-323-0500
Facebook: https://m.me/gouni.th
Email: info@gouni.co.th
Leave A Comment
รับข่าวสารจากเรา
เราจะคอยอัปเดตคุณด้วยการแจ้งเตือนข่าวสารและความช่วยเหลือเมื่อคุณต้องการ