การศึกษาปริญญาโทที่อังกฤษ

การเรียนต่อระดับปริญญาโทในประเทศอังกฤษใช้ระยะเวลาเพียง 1 ปี ในขณะที่ในประเทศอื่นนักเรียนต้องใช้เวลานานถึง 2 ปี ซึ่งโอกาสนี้จะทำให้นักเรียนประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ค่าเรียนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 12,500 ปอนด์ต่อปี โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดขึ้นอยู่กับค่าครองชีพในเมืองที่เลือกไปและอันดับมหาวิทยาลัย

แชร์ประสบการณ์เรียนต่อโทที่สหราชอาณาจักร

พี่ออมสิน (Wikanda T.) จะมารีริวประสบการณ์เรียนต่อโทสาขา MBA ที่ Coventry University ให้เพื่อนๆ ได้อ่านประกอบการตัดสินใจมาศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษค่ะ

ทำไมถึงเลือกเรียน MBA ที่ Coventry UNIVERSITY?

"คณะที่เรียนคือ MBA Global Financial Services การเรียนจะมีทั้งภาคทฤษฎี และปฏิบัติ โดยเรียนทั้งหมด 4 เทอม แบ่งเป็น 3 เทอมแรก จะเรียนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ สาเหตุที่ตัดสินใจเรียนมหาวิทยาลัยนี้ เพราะมีเงื่อนไขอยู่คือต้องพักในลอนดอน, เข้าเรียนในช่วง January และเกี่ยวกับ Finance ทางพี่หนุ่มก็ได้หาตัวเลือกมาให้อยู่ 3 ที่ ซึ่งตอนแรกได้ที่ Westminster University แต่ติดปัญหาคือ คะแนน IELTS บาง part ไม่ผ่านเกณฑ์ ทำให้สมัครเรียนไม่ทัน จึงมาเลือก Coventry University แทน ซึ่งก็ตอบโจทย์ได้เหมือนกัน เพียงแต่อาจจะไม่ใช่ main campus อย่าง Westminster ที่จะมี facility ครบมากกว่าและพื้นที่กว้างขวางกว่า"

การเรียนการสอนภาคทฤษฎี

ถ้าภาคทฤษฎี อาจารย์จะไม่เน้นสอนตามหนังสือ แต่จะเน้นให้นักศึกษาอ่านด้วยตนเอง และมาร่วม discuss ในห้องเรียนด้วย โดยมี case study มาให้ หรือบางครั้งก็ตั้งโจทย์มา และให้นักศึกษาแต่ละคนร่วมออกความคิดเห็น ซึ่งวิธีแบบนี้ทำให้เราได้มุมมองที่หลากหลาย และได้ความรู้ที่กว้างขึ้น นอกเหนือจากในหนังสือ ที่สำคัญอีกอย่าง การบ้านของแต่ละวิชา อาจารย์จะให้โจทย์มา จากนั้นให้นักเรียนค้นคว้า และเขียนเป็นรายงานส่ง ซึ่งการที่จะเขียนรายงานออกมาได้นั้น จะต้องผ่านการค้นคว้าจากแหล่งข้อมูลหลายๆแหล่งมาประกอบกัน ก่อนนำมาสรุปเป็นรายงาน ตามแบบฉบับของเราเอง (แหล่งข้อมูล อันนี้ทางมหาวิทยาลัยจะมี source ให้) นอกจากรายงานเดี่ยว บางวิชาจะมีงานกลุ่มมาให้ ซึ่งลักษณะงานก็จะคล้ายๆ กัน คือเป็นการค้นคว้า และทำเป็นรายงานส่ง หรือบางวิชาก็จะนำเสนอภายในชั้นเรียนร่วมกับเพื่อนๆ

การเรียนการสอนภาคปฏิบัติ

"ในส่วนของภาคปฏิบัติ จะให้นักเรียนฝึกผ่านโปรแกรมจริง เช่น VBA ใน MS Excel, Bloomberg โดยหลังการฝึก อาจารย์ก็จะให้โจทย์มา และหาคำตอบผ่านโปรแกรมนั้นๆ จากนั้นเขียนสรุปในรายงาน อีกอย่างหนึ่ง เนื่องจาก course ที่เรียนเป็น MBA จะมีวิชาหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับ business อาจารย์ให้นักเรียนทุกคน ทำ business plan ของตัวเองและออกมา pitching ที่หน้าชั้น ซึ่งกว่าที่ plan จะออกมาได้นั้น ต้องผ่านการค้นคว้ามาพอสมควร ประหนึ่งว่าเราจะทำกิจการนี้เอง ก็ค่อนข้างที่จะต้องทำการบ้านหนักพอสมควร แต่ก็เป็นสิ่งที่ดี ที่จะฝึกให้เราเป็นนักคิด และวางแผนอย่างเป็นระบบระเบียบ นอกจากนี้แล้วยังมีการไปดูงาน ที่ต่างๆ ด้วย ทั้งที่ Bloomberg, Google campus และ Bank of England ทำให้ได้เห็น และเรียนรู้จากสถานที่จริงๆ เลย"

สามารถเลือกทำ Project จบได้หรือไม่?

"เทอมที่ 4 (เทอมสุดท้าย) ทางมหาวิทยาลัยจะให้เลือกว่าจะทำอะไรก่อนจบ โดยมีตัวเลือก คือ Thesis, Consulting group และ Intern Programme โดยเราเลือก consulting group สำหรับตัวเลือกนี้จะมีลูกค้า (ในที่นี้คือมหาวิทยาลัย) มาให้โจทย์กับทีม เพื่อแก้ปัญหา ซึ่งโจทย์ที่ได้คือการหาสถานที่สำหรับมหาวิทยาลัยเพื่อที่จะเปิด campus ใหม่ ทางทีมก็ต้องใช้ tools ที่เคยเรียนมาและ source ทั้งหมด ในการหาข้อมูลและ analyse ก่อนที่จะนำเสนอสถานที่ที่เหมาะสม ตรงกับโจทย์ของมหาวิทยาลัยมากที่สุด

ซึ่งโดยสรุปแล้ว การเรียนของที่นี่ จะเน้นให้นักเรียนทีส่วนร่วมค่อนข้างเยอะ มีอิสระในการออกความคิดเห็น การเห็นต่างไม่ใช้เรื่องผิด แต่ก็ต้องมีเหตุและผลที่รองรับความต่างนั้น นักเรียนต้องค้นคว้าด้วยตัวเอง ทำให้เรามีความรู้ที่กว้างขวางและรู้จริง ซึ่งต่างจากที่ไทย ที่เน้นในตำรา การเห็นต่างบางครั้งก็โดนปฏิเสธ ที่สำคัญที่สุด การเรียนที่นี้ นักเรียนต้องมีความรับผิดชอบที่สูง เพราะอาจารย์จะให้โจทย์ตั้งแต่ต้นเทอม ทำให้เราต้องรู้จักวางแผนการทำงาน เพื่อที่ว่าจะได้ส่งงานตรงตามกำหนดเวลา และข้อมูลที่ใช้ทำรายงานก็ต้องผ่านการคิดวิเคราะห์มาแล้ว เพราะตอนส่งงาน จะมีระบบ Plagiarism คอยตรวจจับการคัดลอกงานอยู่ด้วย"

บรรยากาศภายในเมืองและความเป็นอยู่โดยทั่วไป

"ตอนไปเรียน ทั้งมหาวิทยาลัยและบ้านพักอยู่ในลอนดอน ซึ่งส่วนตัวคิดว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่มีความหลากหลายสูงมาก ทั้งเชื้อชาติและลักษณะความเป็นอยู่ โดยถ้าอยู่ zone central หรือใจกลางเมือง ก็จะมีความเร่งรีบวุ่นวายตามสไตล์เมืองใหญ่ ถ้าไปทาง west side ก็จะค่อนข้างสงบ ร่มรื่น ชิวๆ บ้านสวยๆ vintage ซึ่งเราพักอยู่ Zone นีก็จะมีความชิวิตดี slow life แต่ถ้าไปทาง east side ก็จะเมืองนิดนึง แต่ไม่วุ่นวายเท่า central และทางฝั่งนี้ค่อนข้างจะมีคนผิวสีอยู่ค่อนข้างเยอะ ก็จะมีลักษณะที่ดิบๆ หน่อย 

แต่สิ่งหนึ่งที่ยังจดจำมาจนถึงวันนี้ไม่ใช่บ้านเมืองใดๆ ทั้งสิ้น แต่คือการทำ BRP (Biometric Residence Permits) card หายถึง 2 ครั้ง และทั้ง 2 ครั้งก็มีคนเจอและนำส่งคืน แต่ที่จำได้ไม่ใช่เพราะทำหาย แต่เป็นวิธีการที่คนเจอบัตรติดต่อเรามา เพื่อจะคืนบัตร เพราะทั้ง 2 คนที่เจอ เอาชื่อเราไป search หาใน Facebook และส่งข้อความมาบอก ซึ่งตัวเราเองยังคิดไม่ถึงว่าวิธีการมันง่ายแค่นี้เอง ติดตราตรึงใจมากๆ"

รู้จัก GOUNI ได้ยังไง ทำไมเลือกไปเรียนต่อกับ GOUNI?

"รู้จัก GoUni ผ่านทางพีช เพราะติดตามพีชใน YouTube มาตลอด และบังเอิญที่ว่าพี่สาวที่จะไปเรียนด้วยกัน ติดต่อกับทางพี่หนุ่มมาก่อนแล้ว เลยสนใจ ยิ่งพอได้มาคุยรายละเอียดต่างๆ บวกกับความเอาใจใส่และความเป็นกันเองของพี่หนุ่มและทีมงาน ก็ยิ่งทำให้มั่นใจใน GoUni เลยตัดสินใจเลือกที่จะไปเรียนต่อกับที่นี่"

เจอปัญหาระหว่างเรียนไหม พี่ๆ GOUNI ช่วยเหลืออะไรบ้าง

"ปัญหาที่เจอก็ตามที่บอกไปก่อนหน้านี้ คือด้วยเงื่อนไขที่ตั้งไว้ ทางพี่หนุ่มและทีม GoUni ก็สามารถหามหาลัยที่ match กับเราที่สุดมาให้ได้ แม้จะต้องเปลี่ยนมหาลัย กะทันหันก็ตาม ทางทีม GoUni ก็พยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อติดต่อเจรจากับทางมหาลัยและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อให้เราได้เรียนในมหาลัยที่ดีที่สุด"

ฝากบอกถึงคนที่ยังลังเลว่าจะไปเรียนต่อกับ GoUni ไหม

"การตัดสินใจจะไปเรียนต่างประเทศ มีขั้นตอนที่ซับซ้อนยุ่งยากพอสมควร การมีที่ปรึกษาที่ไว้ใจได้มาคอยช่วยเหลือ ทำให้ขั้นตอนต่างๆ ง่ายขึ้น เพราะการจะไปเรียน ไม่ใช้แค่เลือกที่เรียนและสมัครเรียนเท่านั้น แต่หมายถึงการที่เราต้องไปใช้ชีวิตอยู่ต่างที่เป็นเวลาร่วมปี เราก็จะต้องมั่นใจว่า เราได้เตรียมการทุกอย่างมาดีแล้ว

ซึ่งจากประสบการณ์ของตัวเอง พี่ๆ ทีม GoUni ไม่ได้เป็นแค่ที่ปรึกษา ที่ช่วยจัดการความยุ่งยากเท่านั้น แต่เป็นเหมือนเพื่อน พี่ ครอบครัวที่ support ดูแลเราในทุกช่วงเวลา มีปัญหาอะไร แค่บอกทาง GoUni ก็จะมีทีม support ช่วยเหลือทั้งที่ไทยและอังกฤษ"

"ตั้งแต่วันแรกที่ตัดสินใจจะไปเรียน สมัครเรียน ไปเรียนที่นู่น จนเรียนจบกลับมา เราก็คงยังคงติดต่อพูดคุยกับทีม GoUni ตลอด เหมือน GoUni เป็นครอบครัวไปแล้ว หากยังลังเลว่าจะไปกับ GoUni ดีไหม จากที่บอกไปข้างต้น อาจจะเป็นเพียงประสบการณ์ส่วนหนึ่ง แต่สุดท้ายแล้วไม่มีใครตอบได้ดีที่สุด เท่ากับมาสัมผัสและเจอกับทีมงาน GoUni ด้วยตนเองนะคะ"

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

• แจกคู่มือ! อยากไปเรียนต่อ UK ต้องเรียนหลักสูตรอะไร?
• มาทำความเข้าใจระบบการศึกษาของอังกฤษกัน!
• ทางลัดสู่มหาวิทยาลัยชั้นนำ! เรียนต่อนอกด้วยหลักสูตร FOUNDATION

ระยะเวลาที่เปิดรับสมัครเข้าเรียนระดับป.โท

มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่เปิดรับสมัครตั้งแต่เดือนตุลาคมในปีก่อนหน้าที่จะไปเรียน เช่น อยากไปเรียนปี 2022 (เปิดเทอมตอนเดือนกันยายน) ก็สมัครเรียนได้ตั้งแต่ตุลาคมของปี 2021 (ปิดรับสมัครทันทีหากเต็มจำนวนที่ต้องการแล้ว)

เกณฑ์การรับเข้าสมัครเรียนระดับป.โท

ทางมหาวิทยาลัยจะพิจารณาเกรดเฉลี่ยในระดับป.ตรีและคะแนนสอบภาษา IELTS เป็นหลัก โดยคะแนน IELTS จะรับอยู่ที่ 6.0-7.0 หรือบางที่อาจจะรับถึง 7.5 จาก 9.0

ในกรณีที่มีคะแนน IELTS ไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด สามารถไปเรียนคอร์สปรับพื้นฐานทางภาษาของทางมหาวิทยาลัยที่เรียกว่า Pre-sessional course ก่อนเปิดเรียนคอร์สป.โท โดยส่วนมากจะเรียนช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม

เอกสารที่ต้องใช้สมัครเรียนระดับป.โท

1. Transcript - ผลการเรียนล่าสุด
2. Degree Certificate - ใบรับรองจบการศึกษา
3. IELTS Academic for UKVI - ผลสอบระดับภาษาอังกฤษ
4. CV - ประวัติส่วนตัว
5. SOP (Statement of Purpose) - เรียงความแนะนำตัว 1 หน้ากระดาษ A4
6. Recommendation Letter 2 ฉบับ - จากอาจารย์หรือหัวหนัางาน
7. Passport - ควรมีอายุเหลืออย่างน้อย 2 ปี
8. UK or US VISA (ถ้ามี)
9. GMAT/ GRE for PG (ถ้ามี)
10. Bank Statement (ย้อนหลัง 6 เดือน) เฉพาะสำหรับผู้ที่สมัครเรียน US

การเลือกมหาวิทยาลัยที่จะเรียนนั้น เป็นหนึ่งในขั้นตอนตัดสินใจยาก การจัดอันดับก็แตกต่างกันไปจากหลายสำนัก GoUni ก่อตั้งขึ้นเพื่อที่จะให้ข้อมูลที่เป็นกลางกับนักเรียนที่สนใจเรียนต่อในประเทศอังกฤษ

การวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนของแต่ละมหาวิทยาลัย และประสบการณ์ตรงจากทั้งนักศึกษาของเราและทีมงานที่อยู่ที่อังกฤษเอง มหาวิทยาลัยแต่ละที่มีข้อดีเสียแตกต่างกันไป ดังนั้น GoUni จึงไม่มุ่งเน้นแค่ช่วยหา มหาวิทยาลัยที่ดี แต่หามหาวิทยาลัยที่เหมาะ กับความต้องการและข้อจำกัดของนักเรียนแต่ละคนด้วย!

ทำไมต้อง GOUNI?

• ให้คำปรึกษาฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
• สะดวกสบาย ทำให้น้องๆ มีเวลาในการทำงานหรือตั้งใจเรียน
• มีสำนักงานใหญ่ที่ลอนดอน สามารถติดต่อกับมหาวิทยาลัยได้โดยตรง
• ทีมงานของเรามีรุ่นพี่ศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัยระดับ Top
• มีผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ด้านการแนะแนวกว่า 15 ปี

ให้การเรียนต่อต่างประเทศเป็นเรื่องง่าย

Official Line: https://lin.ee/SmbZgxh

Tel: 098-825-9840 / 093-323-0500

Facebook: https://m.me/gouni.th

Email: info@gouni.co.th