คู่มือเปิดบัญชีธนาคารในสหรัฐอเมริกา ครบทุกเรื่องที่ต้องรู้

icon-time 25 มิถุนายน 2021
icon-view 19386
icon-comment20
20210520 How To Open A Us Bank Account For Students 01

คู่มือเปิดบัญชีธนาคารในสหรัฐอเมริกา

ก่อนที่จะบินไปเรียนต่อในต่างประเทศนั้น นอกจากจะต้องเตรียมเอกสาร สิ่งของจำเป็นแล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องรู้ไว้คือเรื่องการเปิดบัญชีธนาคารเพราะถ้าจะไปอยู่นานๆ แล้วใช้บัตรของไทยก็คงเสียค่าธรรมเนียมกันไม่ใช่น้อยๆ ดังนั้นถ้ามีบัญชีของประเทศนั้นไว้จะได้อุ่นใจ สะดวกสบาย และใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น

สหรัฐอเมริกาถือเป็นสังคมที่เรียกได้ว่าแทบจะ cashless ไม่ว่าจะเข้าร้านอาหาร เข้าห้างสรรพสินค้าหรือเข้าซุปเปอร์มาร์เก็ต คนส่วนใหญ่ก็จะใช้บัตรจ่าย แม้กระทั่งการซื้อน้ำ 1 ขวดที่ราคา 1 ดอลล่าห์ก็ใช้บัตรจ่ายได้เลย!

ใครที่ไม่รู้ว่าจะเลือกบัตรแบบไหน ธนาคารไหนดี ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ไหนจะเงื่อนไขต่างๆ อีก ก็ไม่ต้องกังวลไป พี่ GoUni รวบรวมข้อมูลมาให้แล้วค่ะ

 

การเปิดบัญชีบัตรเดบิตที่สหรัฐอเมริกาก็มีอยู่ 2 ประเภท

1. Checking: บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน 

  • เป็นบัญชีที่ฝากเงินแล้วไม่มีดอกเบี้ย พกบัตรแทนเงินสดไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่มีข้อจำกัดในการทำธุรกรรม เช่น รูดซื้อของ ชอปปิง กินข้าว กด ATM โอนเงิน
  • แต่ต้องระวังค่า overdraft fee อย่ารูดหรือเขียนเช็คโดยมีเงินในบัญชี Checking Account ไม่พอ เพราะจะเสียค่าปรับประมาณ $30 ต่อครั้ง (ขึ้นอยู่กับธนาคาร) 
  • มีความเสี่ยงบัตรโดน Hack บัตรหายหรือโดนขโมย เพราะคนที่เก็บบัตรได้สามารถนำไปรูดซื้อของตามร้านได้เลย ดังนั้นก็ต้องระวังกันหน่อยนะ

 

2. Saving: บัญชีออมทรัพย์ 

  • เป็นบัญชีที่ฝากเงินแล้วได้ดอกเบี้ย ซึ่งบัญชีนี้มันจะดีสำหรับคนที่มีเงินเยอะและไม่คิดจะใช้เป็นเวลานาน ซึ่งในแต่ละเดือนก็ค่อยโอนเท่าที่จำเป็นใส่ใน Checking Account เพื่อรูดใช้ในแต่ละวันได้ ใครมีบัญชีนี้ต้องหมุนเงินให้เป็นเพราะถ้าถอนก่อนครบกำหนดก็จะไม่มีดอกเบี้ย
  • แต่ข้อเสียก็คือจะมีข้อจำกัดว่าสามารถทำธุรกรรมกับบัญชีนี้ได้แค่ 6 ครั้งต่อเดือน มากกว่านั้นก็จะเสียค่าบริการ (ขึ้นอยู่กับธนาคาร)

  

ถ้าต้องการเปิดบัญชีต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง

  • พาสปอร์ต
  • วีซ่านักเรียน
  • ใบรับรองการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย (I-20)
  • บัตรนักเรียน / ใบขับขี่
  • เงินสดขึ้นต่ำที่ต้องใช้ในการเปิดบัญชี (ขึ้นอยู่กับธนาคาร)

สำหรับการเปิดบัญชี Checking และ Saving จะใช้เอกสารเหมือนกัน อยากเปิดบัญชีประเภทไหนก็แจ้งเจ้าหน้าที่ได้เลย การเปิดบัญชีและออกบัตร ATM จะไม่มีค่าใช้จ่ายแต่ว่าจะมีค่าธรรมเนียมรายเดือน (ขึ้นอยู่กับธนาคาร) บางธนาคารอาจแจ้งให้ผู้ถือบัตรรูดเงินตามที่กำหนดหรือมีเงินติดบัญชีไว้ตามที่กำหนดก็จะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมรายเดือนค่ะ

  

ธนาคารอเมริกาที่แนะนำสำหรับเปิดบัญชี

woman walking in-front of white building with ionic pillars

แนะนำว่าให้เปิดกับธนาคารใหญ่ไปเลยก็จะดีกว่า เพราะ ATM หาง่าย สะดวก และธนาคารมีอยู่ทุกรัฐ เกิดไปเที่ยวต่างรัฐแล้วมีปัญหาก็เข้าไปติดต่อสาขาที่นั่นได้เลย ธนาคารใหญ่ที่แนะนำก็จะมี

  • Bank of America 
  • Chase Bank
  • Wells Fargo

การเปิดบัญชีก็ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด แต่ละประเภทก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป รู้แบบนี้แล้วทุกคนคงจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เปิดบัญชีประเภทไหนก็เอาตามที่เราสะดวกเลย

 

สมัครง่าย ได้โปรโมชั่น พร้อมอัพ Credit Rewards

อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักศึกษาในอเมริกาที่จะช่วยให้การใช้จ่ายในชีวิตประจำวันง่ายขึ้น สะดวกและยังประหยัดเงินได้อีกก็คือการเปิดบัตรเครดิต ซึ่งจะมาพร้อมโปรโมชั่นต่างๆ มากมาย เช่น  มี credit rewards สะสมแต้มเพื่อแลกของ ซื้อของได้ส่วนลด เติมน้ำมันได้ cashback ได้เครดิตขึ้น Uber ฟรี ช่วยเซฟเงินในกระเป๋าได้เยอะเลย


สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเปิดบัตรเครดิตที่อเมริกา

  • อายุ 21 ปีขึ้นไป
  • มีบัญชีบัตรเดบิต


เอกสารในการใช้สมัครบัตรเครดิต

  • พาสปอร์ต
  • วีซ่านักเรียน
  • ใบรับรองการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย (I-20) 
  • บัตรนักเรียน / ใบขับขี่
  • เงินที่จะใช้ค้ำประกันเพื่อเปิดบัตรตามวงเงินกรณีที่เปิดบัตร Secured Credit Card

 

บัตรเครดิตที่แนะนำสำหรับนักศึกษา

brown wallet

ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตก็มีตั้งแต่ 0 บาทไปจนถึงหลายร้อยเหรียญ ซึ่งแน่นอนว่าบัตรที่ไม่มีค่าธรรมเนียมก็จะมีสิทธิประโยชน์น้อยกว่า

  • Deserve Edu Mastercard
  • Bank of America Cash and Travel Rewards Cards
  • Citibank

 

โอนเงินจะเป็นเรื่องง่าย ถ้าใช้แอพเสริมเหล่านี้

ปกติเวลาอยู่ไทย จะโอนเงินไปไหนก็สะดวก ค่าธรรมเนียมก็ไม่มี จะชอปปิ้งออนไลน์ จ่ายค่าอาหาร สแกนปุ๊ปเงินก็เข้าปั๊ป แต่ที่อเมริการะบบโอนเงินไม่ได้ง่ายเหมือนบ้านเรา ไม่ใช่ว่ามีแอปธนาคารแล้วจะทำได้เลย ระบบจะค่อนข้างช้า ค่าบริการก็แพง

ที่นี่เลยมีระบบกลางอย่าง Wired Transfer ระบบการโอนเงินปกติผ่านระบบกลาง โดยใช้ SWIFT ของธนาคารปลายทางที่ไทย ระบุรหัสธนาคาร (Routing Number) และเลขที่บัญชี (Account Number) เพื่อกดโอนเงินระหว่างประเทศ ค่าธรรมเนียมค่อนข้างสูง ($7-$40) และใช้เวลาราวๆ 1-5 วัน ขึ้นอยู่กับว่าเราจ่ายค่าธรรมเนียมเท่าไหร่ ฉะนั้นใครหลายคนก็จะนิยมใช้บริการแอปเสริมสำหรับโอนเงินระหว่างประเทศมากกว่า เช่น

Wise Logo

TRANSFERWISE 

  • บริการโอนเงินระหว่างประเทศที่ใช้อัตราการแลกเงินจะตรงตามตลาดและไม่มีค่าธรรมเนียมแฝง
  • สามารถโอนเงินเข้าบัญชีของ Transferwise ผ่าน Debit Card แล้วจากนั้นเงินก็จะเข้าบัญชีของเรา ซึ่งค่าธรรมเนียมจะหักจากเงินก้อนที่เราโอน ส่วนระยะเวลาที่ใช้โอนก็ขึ้นอยู่กับจำนวนเงิน 
  • ข้อเสียคืออาจต้องรอ 2 วันถึงจะได้รับเงิน
Paypal Logo Preview

PAYPAL 

  • บริการโอนเงินจากบัญชี Paypal ของเรา เข้าบัญชี Paypal ของคนที่เราต้องการโอนเงินให้ ขอเพียงแค่มีบัญชีธนาคารที่เชื่อมต่อเข้ากับบัญชี Paypal สะดวก รวดเร็ว เป็นที่นิยมมาก
  • ข้อเสียคือมีค่าธรรมเนียมแอบแฝง (hidden fee) ที่หักตอนผู้รับจะเบิกเงินออกมานั่นเอง
Moneygram Logo

MONEYGRAM 

  • บริการโอนเงินผ่านระบบออนไลน์และสามารถโอนเงินตามร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ของ Moneygram เช่น Walmart, 7-eleven สามารถกรอกชื่อ เบอร์โทร ชื่อผู้รับเงิน และข้อมูลธนาคารที่รับโอน พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าจะโอนจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งปลายทางจะได้รับเงินภายใน 10 นาที
  • ข้อเสียก็คือมีค่าธรรมเนียมค่อนข้างสูงและมีค่าธรรมเนียมแฝง
Western Union Logo Vector

Western Union

  • เป็นการโอนเงินที่สะดวกมากเพราะนอกจากจะโอนผ่านแอปและเว็บไซต์แล้ว ก็ยังมีจุดบริการกระจายอยู่ทั่วโลก หาได้ง่ายผ่านห้างสรรพสินค้า หรือจุดศูนย์รวมสำคัญในประเทศต่าง ๆ 
  • ข้อเสียก็คือมีค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างสูงและมีค่าธรรมเนียมแฝง

การศึกษาต่อระดับปริญญาที่อเมริกา

มหาวิทลัยในอเมริกาหรือบาง College แบ่งภาคเรียนออกเป็น 4 เทอมเท่าๆ กัน โดยแต่ละเทอมจะเรียนอยู่ที่ประมาณ 11-12 สัปดาห์ หรือเรียกว่า 1 quarter วนไปจนครบปี แต่ Summer Quarter จะสั้นมากเพราะเรียนเพียงแค่  8 สัปดาห์เท่านั้น

หลายคนอาจจะเข้าใจผิดว่าปริญญาโทที่ USA ต้องเรียน 2 ปี แต่ความจริงระยะเวลาการเรียนขึ้นอยู่มหา’ลัยและสาขาวิชา บางสาขาอาจจะเรียน 10 เดือนเท่านั้น หรือบางสาขาอาจจะเรียนประมาณ 10/12 เดือน หมายความสามารถเรียนเครดิตเต็มพิกัดแล้วจบภายใน 10 เดือนหรือเรียนตามปกติแล้วจบภายใน 12 เดือน

Minimum credit จะอยู่ที่ 12 credits และ Maximum credit จะอยู่ที่ 20-21 credits ผู้เรียนต้องดูว่า Core ของสาขาที่เราเลือกมีอะไรบ้าง? จุดประสงค์คือจะเน้นเป็นการเก็บ Credit ให้ครบหรือเรียกได้ว่า ‘ถ้าเก็บครบก็จบได้’ นั่นเอง สำหรับผู้ที่สนใจอยากออกไปซ่า ทดลองความกล้าใน USA พร้อมเรียนจบรับใบปริญญา พี่ GoUni ขอแนะนำ 5 รัฐสุด Popular ที่เด็กไทยนิยมไปเรียนนั่นก็คือ

  • New York
  • Florida
  • California
  • Washington
  • Massachusetts
123137455 1765666273590028 808299455065840966 O

ทำไมต้อง GOUNI?

  • ให้คำปรึกษาฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
  • สะดวกสบาย ทำให้น้องๆ มีเวลาในการทำงานหรือตั้งใจเรียน
  • มีสำนักงานใหญ่ที่ลอนดอน สามารถติดต่อกับสถาบันได้โดยตรง
  • ทีมงานของเรามีรุ่นพี่ศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัยระดับ Top
  • มีผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ด้านการแนะแนวกว่า 15 ปี

    

ให้การเรียนต่อต่างประเทศเป็นเรื่องง่าย

Official Line: https://lin.ee/SmbZgxh

Tel: 098-825-9840 / 093-323-0500

Facebook: https://m.me/gouni.th

Email: info@gouni.co.th