Seattle เป็นหนึ่งในเมืองที่โรแมนติคที่สุดใน USA การันตีด้วยภาพยนตร์ Sleepless in Seattle ที่ไม่ว่าใครได้ดูก็จะต้องตกหลุมรัก ทั้งเมืองมีกลิ่นไอของความรักเต็มไปหมด แถมยังมีฝนตกตลอดทั้งปีเพิ่มความโรแมนติคเข้าไปอีก แต่นอกจากความโรแมนติคแล้ว Seattle ยังมีเทศกาลให้เที่ยวตลอดทั้งปีอีกด้วยนะ

วาเลนไทน์นี้ ต้องแวะ ต้องพัก ต้องรักเธอ

สำหรับเทศกาลแห่งความรักในเมืองที่เรียกได้ว่าโรแมนติคที่สุดใน US นอกจากกิจกรรมอย่างดินเนอร์ตามร้านอาหาร ดูหนัง ดู musical แล้ว ที่นี่ยังมีพาทัวร์โรงงานช็อคโกแลต Seattle Chocolate ซึ่งจะมีช็อคโกแลตบาร์ที่ออกมาแค่เฉพาะช่วงวันวาเลนไทน์แบบนี้ด้วยนะ

และไฮไลท์ของวันนี้คือกิจกรรม “Watch the Sunset” หรือการดูพระอาทิตย์ตก นั่งดูสีของท้องฟ้าที่เปลี่ยนไปกลางสวนสาธารณะ หรือจะริมทะเลนั้นนับว่าเป็นอะไรที่สุดแสนจะเรียบง่ายแต่โรแมนติคสุดใจ และคงไม่มีอะไรที่จะดีไปกว่าการปิดท้ายวันแห่งความรักกับคนข้างๆ ด้วยการนั่งชื่นชมสิ่งสวยงามด้วยกันแล้วล่ะค่ะ 

ส่วนสถานที่ที่คนนิยมไปดูพระอาทิตย์ตกก็จะมี

• Kerry Park
• Sunset Hill park 
• Space Needle
• Alki Beach Park

ครึ่งปีผ่านไป ขอเอาใจคนรักหนังกับเทศกาล SIFF

เอาใจคนรักหนังกับ Seattle International Film Festival เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา! งานนี้จะจัดขึ้นราวๆ สามอาทิตย์ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมไปจนถึงมิถุนายน ซึ่งมีการจัดแสดงภาพยนตร์มากมายหลายร้อยเรื่อง จากทั่วทุกมุมโลก ทั้งหนังสั้น หนังอินดี้ สารคดี และรายการต่างๆ มาฉายให้ดู

เรียกได้ว่าเป็นเทศกาลที่เปิดโอกาสให้เราได้ชื่นชม ศิลปะของการถ่ายทำในภาพยนตร์อย่างเต็มที่พิกัดอย่างที่ไม่เคยมาก่อน! เพราะนอกจากจะได้ดูภาพยนตร์แล้วยังมีโอกาสได้ร่วมอีเวนต์ ฟังสัมภาษณ์ ร่วมสนทนาถามคำถามกับคนในวงการ และอีกมากมาย ซึ่งค่าตั๋วเข้าชมเทศกาลภาพยนตร์ก็จะอยู่ที่ 

• 6-pack : $75 (voucher แลกตั๋วหนังเรื่องที่อยากดู) 
• Film Only: $250
• All Access: $350

เทศกาลภาพยนตร์ดีๆ แบบนี้ Film Lovers ทั้งหลายต้องไม่พลาด อยู่ได้ทั้งวันตั้งแต่เช้ายันเย็น ดูหนังกันให้คุ้มเลยทีเดียว เป็นอีกหนึ่งอย่างใน bucket list ที่ควรทำสักครั้งในชีวิตสำหรับคอหนัง!

ซัมเมอร์นี้ มีอีเวนต์ดีๆ รออยู่ที่ SEAFAIR

เทศกาล Seafair คืองานฤดูร้อนที่จัดขึ้นทุกปีในช่วงเดือนกรกฎาคมไปจนถึงเดือนสิงหาคม เรียกได้ว่าเป็นเทศกาลที่ใครมา Seattle ในช่วงซัมเมอร์จะต้องแวะมาเที่ยว มาร่วมสนุกสุดเหวี่ยงไปกับคนแปลกหน้าจากทั่วทุกมุมโลก Seafair ถูกจัดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1950 โดยงานนี้จะรวมกิจกรรมของชุมชนต่างๆ ของรัฐ Seattle เพื่อจัดการเฉลิมฉลองต้อนรับซัมเมอร์

กิจกรรมของแต่ละงานในทุกอาทิตย์ก็จะแตกต่างกันออกไป จะมีทั้งวิ่งมาราธอน ฉลองวันชาติอเมริกา พาเหรดต่างๆ กิจกรรมทางเรือ การแสดงทางอากาศและอีกมากมาย ซึ่งอีเวนต์ที่เด่นๆ ของเทศกาลก็จะมี

• Seafair Summer 4th 
• Milk Carton Derby
• Seafair Triathlon & Kids Triathlon
• Seafair Torchlight Parade 
• Torchlight 5K & 8K Run
• Seafair Fleet Week
• Seafair Weekend Festival

4TH OF JULY ฉลองวันชาติกับชาวอเมริกันทั่ว US!

4th of July หรือ Independence Day คือวันชาติของอเมริกา เฉลิมฉลองการประกาศอิสรภาพสหรัฐอเมริกา (Deaclaration of Independence) ที่ถูกประกาศขึ้นในปี 1776 เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมีชีวิต สิทธิเสรีภาพและการแสวงหาความสุขในชีวิตอย่างเท่าเทียมกัน โดยมีคนอเมริกามากกว่า 200 ล้านคนที่จะร่วมฉลองวันชาติด้วยกัน นับว่าเป็นเทศกาลที่คนอเมริกาให้ความสำคัญมากๆ

ซึ่งในวันเฉลิมฉลองแบบนี้คนก็จะออกมาปิคนิค บาร์บีคิว ฟังดนตรีสด ดูพลุ ดูขบวนพาเหรด อย่างที่ Seattle ก็จะมีการจัดงานที่ Bellevue ซึ่งเป็นการจุดพลุที่เยอะที่สุดแห่งหนึ่ง! ซึ่งแต่ละคนก็ไม่ธรรมดา จัดเต็มมากตั้งแต่เสื้อผ้าหน้าผม มีเพ้นท์หน้า แต่งชุดเป็นธงชาติ บางคนก็ถึงขั้นมาปูเสื่อนั่งรอตั้งแต่ตอนกลางวัน ทั้งๆ ที่งานเริ่มเที่ยงคืน ทั้งเมืองทั้งคนก็จะคึกคักอยู่ตลอดเวลา

นอกจากนี้แล้วก็จะมีการจุดพลุเหนือทะเลสาบ Kirkland ซึ่งอลังการงานสร้างมากไม่แพ้กัน หรือจะไปฉลองตามแลนด์มาร์คสำคัญต่างๆ ของเมืองอย่าง Seattle Gas Works Park ที่มีการจัดงาน Seattle Seafair Summer Fourth กลางปีก็ได้เช่นกัน

ทำงานมาทั้งปีชาร์จพลังให้เต็มที่ BUMBERSHOOT

Bumbershoot Arts & Music Festival เทศกาลดนตรีและศิลปะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน North America จัดขึ้นทุกปีในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ของวันแรงงานแห่งชาติของอเมริกา ซึ่งก็จะตรงกับอาทิตย์แรกของเดือนกันยายน

เทศกาลนี้เอาใจชาวอเมริกาและชาวต่างชาติทั้งหลายให้มาสนุกสุดเหวี่ยงกับเสียงดนตรี หลังจากทำงานเหนื่อยกันมาทั้งปี เป็นเทศกาลที่เรียกว่าเป็น signature ของ Seattle เลยก็ว่าได้

นอกจากจะได้เจอนักร้องนักดนตรีที่มีชื่อเสียงแล้วงานนี้ยังมีการจัดแสดงศิลปะทั้งภาพยนตร์ ละครเวที วรรณกรรม ศิลปะการแสดง และอีกมากมาย เรียกได้ว่ามางานเดียวครบทุกไลฟสไตล์ จะสายแดนซ์ สายชิว สายอาร์ท ก็เพลิดเพลินได้อย่างเท่าเทียมกัน

ราคาตั๋วค่าเข้าก็จะประมาณ 

• บัตรสำหรับ 1 วัน: $99
• บัตรสำหรับ 2 วัน: $165
• บัตรสำหรับ 3 วัน: $220
• Emerald passes: $775

แต่งตัวเป็นผี แล้วมาปาร์ตี้วันฮาโลวีนกัน

ฮาโลวีนก็เป็นอีกเทศกาลที่คนที่นี่จัดเต็มกันมากๆ ทั้งตกแต่งบ้าน และก็แต่งตัวเป็นผีต่างๆ กิจกรรมก็จะมีแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น Trick or Treat ขอขนมจากบ้านต่างๆ แกะสลักฟักทองไว้ตกแต่งตามหน้าบ้าน ทำเค้กและคุกกี้ในตีมฮาโลวีน บางบ้านก็จะมีจัดฮาโลวีนปาร์ตี้ ดูหนังสยองขวัญด้วยกันเป็นต้น

ที่ Seattle ตามร้านอาหารหรือโรงแรมต่างๆ ก็จะมีดินเนอร์ที่มาในตีมฮาโลวีน ส่วนใครที่รู้สึกว่าอยากจะปาร์ตี้แบบหนักๆ แดนซ์ให้มันส์ก็ต้องไปไนท์คลับ ซึ่งในเทศกาลแบบนี้ไนท์คลับต่างๆ ก็จะตกแต่งให้เข้ากับตีมฮาโลวีน แล้วแต่ว่าร้านจะสังสรรค์ออกมาได้ครีเอทีพขนาดไหน อย่าลืมมาเปิดประสบการณ์เที่ยวเทศกาลหลอนๆ สไตล์คนอเมริกัน!

ต้อนรับซานต้ากับพาเหรดสุดอลังที่ BELLEVUE

เชื่อว่าหลายๆ คนหลงรักคริสต์มาส เทศกาลความอบอุ่นใจที่สุดแห่งปี แน่นอนว่าเป็นเทศกาลสำคัญสำหรับคนอเมริกันที่ครอบครัวจะได้มาพบเจอกัน ใช้เวลาร่วมกัน ดังนั้นที่นี่จะเฉลิมฉลองกันยิ่งใหญ่มากๆ ไม่แพ้ประเทศอื่นเลย

คริสต์มาสที่นี่ก็จะมีการตกแต่งไฟคริสต์มาสตามตึก ตามร้านต่างๆ บ้านผู้คน ทุกที่คือเล่นใหญ่กันหมด เป็นกิจกรรมที่คึกคักที่สุดของปี อย่างที่ Downtown Seattle ก็จะมีต้นคริสต์มาสใหญ่ใจกลางเมือง รวมถึงม้าหมุนสุดอลังการด้วย

นอกจากนี้แล้วห้ามพลาดเลยกับขบวนพาเรดคริสต์มาสที่ Bellevue ที่จะเริ่มขบวนตั้งแต่ Bellevue Square, Bellevue Place ไปถึง Lincoln Square มีทั้งร้อง ทั้งเต้น มีมาสคอตต่างๆ และมีปล่อยหิมะปลอมด้วยยย งานเริ่มตั้งแต่ 5 โมงเย็นจนถึง 3 ทุ่ม ที่สำคัญคือชมฟรี! ใครที่มาจาก Seattle ก็นั่งรถบัสยาวๆ ชมวิวทะเลสาบข้างทางอย่าง Lake Washington ซึ่งวิวสวยกินใจสุดๆ ไปเลย

ส่วนใครที่อยากได้อารมณ์ชิวๆ ในวันคริสต์มาสแบบนี้ก็ต้องไปที่ Pike Plack Market ที่นี่จะให้บรรยากาศความเป็น Christmas Market จะเดินเอาบรรยากาศหรือจะช้อปปิ้งของประจำเทศกาลคริสต์มาสกลับไปฝากคนที่บ้านก็ได้เหมือนกัน ถ้าเดินๆ อยู่แล้วมีฝนตกปรอยๆ ก็คงจะโรแมนติคไม่ใช้น้อยเลยนะเนี่ย

ข้ามปีให้โลกจำจดที่แลนด์มารค์ SPACE NEEDLE

ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ไปกับการดูพลุใหญ่ที่ Space Needle แลนด์มาร์คสำคัญที่ไม่ว่าใครมาก็ต้องไปดูให้เห็นกับตา ไม่งั้นก็จะเหมือนมาไม่ถึง Seattle ซึ่งพลุในแต่ละปีก็จะมีตีมที่แตกต่างกันออกไป นอกจากพลุแล้วที่นี่ยังมีดนตรีสดเล่นให้ฟังกันอีก สมกับเป็นเมืองที่ครองแชมป์ว่าโรแมนติคที่สุดในอเมริกา!

ส่วนใครที่อยากสัมผัสธรรมชาติในช่วงท้ายปีแบบนี้ Alpental Ski Area ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่จัดงานปาร์ตี้ส่งท้ายปีสุดมันส์ พร้อมดนตรีสดให้ร้องเล่นเต้นได้ตลอดทั้งคืน มีแคมป์ไฟ และ Torchlight Parade ขบวนพาเหรดที่นำไฟและดอกไม้มาประดับตกแต่งสกีไว้  ซึ่งขบวนก็จะเริ่มประมาณ 23:50 จากบนยอดเขานักสกีก็จะถือไฟลงมา ทำให้เป็นสีสันสวยงามตระการตา

พอประมาณเที่ยงคืนก็จะมีการจุดพลุอีก ทั้งพาเหรดทั้งพลุทำให้ในค่ำคืนนี้อลังการสุดๆ ด้วยความที่งานจัดบนภูเขาอาจต้องเผื่อเวลานั่งรถจากในเมืองก็ต้องนั่งรถไปประมาณ 1 ชั่วโมง แต่วิวข้างทางสวยขนาดนี้ คุ้มกับการไปแน่นอน อย่าลืมไปร่วมส่งท้ายปีนี้ที่ Seattle รับรองว่าจะเป็นอีกปีที่ประทับใจไม่รู้ลืมค่ะ

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

• CHECKLIST สิ่งที่ต้องทำก่อนบินไปเรียนต่อที่ USA!
• ห้ามพลาด 5 แลนด์มาร์คใหม่ในนิวยอร์ก ไปแล้วไม่ซ้ำใคร

ส่วนใครที่กำลังอยากจะไปเที่ยวพร้อมอัพเลเวลภาษาอังกฤษหรือเรียนต่อระดับปริญญาที่อเมริกาเลย แต่ยังไม่รู้จะไปที่ไหน ก็มาปรึกษาพี่ๆ GoUni ได้นะ

ทำไมต้อง GOUNI?

• ให้คำปรึกษาฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
• สะดวกสบาย ทำให้น้องๆ มีเวลาในการทำงานหรือตั้งใจเรียน
• มีสำนักงานใหญ่ที่ลอนดอน สามารถติดต่อกับสถาบันได้โดยตรง
• ทีมงานของเรามีรุ่นพี่ศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัยระดับ Top
• มีผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ด้านการแนะแนวกว่า 15 ปี

ให้การเรียนต่อต่างประเทศเป็นเรื่องง่าย

Official Line: https://lin.ee/SmbZgxh

Tel: 098-825-9840 / 093-323-0500

Facebook: https://m.me/gouni.th

Email: info@gouni.co.th